
การเตือนผู้ใช้ให้ “หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ” ยังไม่ได้ผล: สิ่งที่ต้องรู้และทำ
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025 เวลา 11:22 น. ศูนย์ความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NCSC) ได้เผยแพร่บทความในบล็อกที่น่าสนใจและสำคัญยิ่ง นั่นคือ “การบอกให้ผู้ใช้ ‘หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่ดี’ ยังไม่ทำงาน” บทความนี้ไม่ได้เพียงแค่ชี้ให้เห็นปัญหา แต่ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแนวทางการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
ทำไมการบอกให้หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่ดี ถึงไม่ได้ผล?
ปัญหาอยู่ที่ว่าคำแนะนำนี้ “คลุมเครือ” และ “เป็นนามธรรม” เกินไป ผู้ใช้งานทั่วไปมักไม่สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่าลิงก์ใดเป็น “ลิงก์ที่ไม่ดี” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ:
- มิจฉาชีพมีความฉลาดมากขึ้น: เทคนิคการหลอกลวงมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ลิงก์ที่อันตรายอาจถูกปลอมแปลงให้ดูเหมือนลิงก์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ลิงก์จากธนาคารหรือบริษัทที่ผู้ใช้งานคุ้นเคย
- ใช้ประโยชน์จากอารมณ์: มิจฉาชีพมักใช้เทคนิคทางจิตวิทยาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้งานคลิกลิงก์โดยไม่ทันคิด เช่น สร้างความตื่นตระหนก, ความอยากรู้อยากเห็น, หรือโอกาสที่พลาดไม่ได้
- ความรู้และทักษะที่แตกต่างกัน: ผู้ใช้งานแต่ละคนมีความรู้และประสบการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แตกต่างกัน สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าชัดเจน อาจไม่ใช่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการคลิกลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
การคลิกลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจนำไปสู่ผลกระทบที่ร้ายแรง เช่น:
- การขโมยข้อมูลส่วนตัว: ข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต, หรือข้อมูลประจำตัว อาจถูกขโมยไปใช้ในทางที่ผิด
- การติดตั้งมัลแวร์: อุปกรณ์ของคุณอาจติดมัลแวร์ เช่น ไวรัส, สปายแวร์, หรือแรนซัมแวร์ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลเสียหาย, ขโมยข้อมูล, หรือควบคุมอุปกรณ์ของคุณจากระยะไกล
- การถูกหลอกลวงทางการเงิน: คุณอาจถูกหลอกให้โอนเงินให้กับมิจฉาชีพ หรือถูกหลอกให้ซื้อสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นจริง
- การสูญเสียชื่อเสียง: หากอุปกรณ์ของคุณถูกใช้เพื่อส่งสแปมหรือโจมตีผู้อื่น ชื่อเสียงของคุณอาจเสียหายได้
แนวทางใหม่: สิ่งที่เราควรทำ
NCSC เสนอว่าเราต้องเปลี่ยนจากการบอกให้ผู้ใช้งาน “หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่ดี” ไปเป็นการให้ “คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงและนำไปปฏิบัติได้จริง” เช่น:
-
สอนวิธีตรวจสอบความถูกต้องของลิงก์: สอนให้ผู้ใช้งานตรวจสอบ URL อย่างละเอียด มองหาความผิดปกติ เช่น ตัวอักษรที่ผิดพลาด หรือโดเมนที่ไม่คุ้นเคย
-
สนับสนุนการใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัย: แนะนำให้ใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัย เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส, ตัวกรองสแปม, และ extension ของเบราว์เซอร์ที่ช่วยตรวจจับลิงก์ที่เป็นอันตราย
-
สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเทคนิคการหลอกลวง: ให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคที่มิจฉาชีพใช้ เช่น ฟิชชิ่ง, การหลอกลวงทางอีเมล, และการหลอกลวงทางโซเชียลมีเดีย
-
เน้นย้ำความสำคัญของการคิดก่อนคลิก: สอนให้ผู้ใช้งานหยุดคิดสักครู่ก่อนที่จะคลิกลิงก์ใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิงก์ที่ดูน่าสงสัย หรือลิงก์ที่กระตุ้นอารมณ์
-
ส่งเสริมการรายงานลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ: สร้างช่องทางให้ผู้ใช้งานสามารถรายงานลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบและดำเนินการได้
-
ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยป้องกัน: องค์กรควรลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication – MFA) และการกรองเนื้อหาที่เป็นอันตราย
สรุป
บทความของ NCSC เป็นการเตือนใจว่าการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่ยังเป็นเรื่องของการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้ใช้งาน การบอกให้ผู้ใช้งาน “หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่ดี” ไม่เพียงพออีกต่อไป เราต้องให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงและนำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปกป้องตนเองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเปลี่ยนแปลงแนวทางนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล, องค์กร, และผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางไซเบอร์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
การบอกให้ผู้ใช้ “หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่ดี” ยังไม่ทำงาน
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-03-13 11:22 ‘การบอกให้ผู้ใช้ “หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่ดี” ยังไม่ทำงาน’ ได้รับการเผยแพร่ตาม UK National Cyber Security Centre กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
124