ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังคำสุ่มสามคำ, UK National Cyber Security Centre


ตรรกะที่อยู่เบื้องหลัง “คำสุ่มสามคำ”: ทำไมถึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าในการสร้างรหัสผ่าน?

บทความจาก UK National Cyber Security Centre (NCSC) เรื่อง “ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังคำสุ่มสามคำ” ได้อธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมการใช้ “วลีรหัสผ่าน” ที่ประกอบด้วยคำสุ่มสามคำ (หรือมากกว่า) ถึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยและง่ายต่อการจดจำมากกว่ารหัสผ่านแบบเก่าที่ซับซ้อน

ปัญหาของรหัสผ่านแบบเดิมๆ:

  • ซับซ้อนแต่ไม่ปลอดภัยจริง: หลายคนพยายามสร้างรหัสผ่านที่ซับซ้อนด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่, ตัวพิมพ์เล็ก, ตัวเลข, และสัญลักษณ์พิเศษ แต่รหัสผ่านเหล่านี้มักจะถูกสร้างขึ้นโดยมีรูปแบบที่คาดเดาได้ง่าย (เช่น การแทนที่ตัวอักษรด้วยตัวเลขหรือสัญลักษณ์) ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เครื่องมือถอดรหัสอัตโนมัติ (เช่น brute-force attack) เพื่อเจาะรหัสผ่านเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
  • จำยาก: รหัสผ่านที่ซับซ้อนมักจะยากต่อการจดจำ ทำให้ผู้ใช้ต้องจดรหัสผ่านไว้ หรือใช้รหัสผ่านเดียวกันกับหลายบัญชี ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัย

ทำไม “คำสุ่มสามคำ” ถึงปลอดภัยกว่า:

แนวคิดหลักคือการสร้างรหัสผ่านที่ยาวและคาดเดาได้ยาก โดยใช้คำสุ่มที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน:

  • ความยาว: รหัสผ่านที่ยาวกว่าย่อมปลอดภัยกว่าเสมอ ยิ่งรหัสผ่านยาวเท่าไหร่ จำนวนความเป็นไปได้ในการคาดเดาก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย
  • ความคาดเดาไม่ได้: การใช้คำสุ่มที่ไม่มีความสัมพันธ์กันทำให้แฮกเกอร์คาดเดารหัสผ่านได้ยากขึ้น เพราะไม่มีรูปแบบหรือความหมายใดๆ ที่จะเชื่อมโยงคำเหล่านั้นเข้าด้วยกัน
  • ง่ายต่อการจดจำ: เมื่อเทียบกับรหัสผ่านที่ซับซ้อน การจดจำคำสุ่มสามคำ (หรือมากกว่า) จะง่ายกว่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเลือกคำที่ง่ายต่อการนึกภาพหรือเชื่อมโยงกันในรูปแบบแปลกๆ

ตรรกะทางคณิตศาสตร์:

ความปลอดภัยของรหัสผ่านสามารถวัดได้ด้วย “เอนโทรปี” (Entropy) ซึ่งเป็นหน่วยวัดความไม่แน่นอนหรือความสุ่มของข้อมูล

  • รหัสผ่านที่ซับซ้อน: แม้ว่ารหัสผ่านที่ซับซ้อนอาจจะมีตัวอักษรหลายประเภท แต่ถ้ามีรูปแบบที่คาดเดาได้ง่าย เอนโทรปีก็จะต่ำ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเดาได้ง่ายขึ้น
  • วลีรหัสผ่าน: การใช้คำสุ่มสามคำ (หรือมากกว่า) จากพจนานุกรมขนาดใหญ่ จะทำให้เอนโทรปีสูงมาก เนื่องจากจำนวนความเป็นไปได้ในการรวมคำมีความมหาศาล

ตัวอย่าง:

สมมติว่าเราใช้พจนานุกรมที่มีคำศัพท์ 8,000 คำ

  • คำสุ่มหนึ่งคำ: มีความเป็นไปได้ 8,000 แบบ
  • คำสุ่มสองคำ: มีความเป็นไปได้ 8,000 * 8,000 = 64 ล้านแบบ
  • คำสุ่มสามคำ: มีความเป็นไปได้ 8,000 * 8,000 * 8,000 = 512 พันล้านแบบ

เห็นได้ชัดว่าจำนวนความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเราเพิ่มจำนวนคำ

ข้อดีและข้อเสีย:

ข้อดี:

  • ปลอดภัย: มีความปลอดภัยสูงกว่ารหัสผ่านที่ซับซ้อนแบบเดิมๆ
  • ง่ายต่อการจดจำ: ง่ายต่อการจดจำและนำไปใช้
  • ง่ายต่อการสร้าง: สามารถสร้างได้ง่ายโดยการใช้เครื่องมือสร้างรหัสผ่านหรือเลือกคำสุ่มจากพจนานุกรม

ข้อเสีย:

  • ยาว: วลีรหัสผ่านอาจจะยาวกว่ารหัสผ่านแบบเดิมๆ เล็กน้อย
  • ต้องเลือกคำอย่างระมัดระวัง: ควรเลือกคำที่สุ่มจริงๆ และไม่มีความสัมพันธ์กัน

สรุป:

“วลีรหัสผ่าน” ที่ประกอบด้วยคำสุ่มสามคำ (หรือมากกว่า) เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและง่ายต่อการใช้งานสำหรับการสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง หลักการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก NCSC และเป็นแนวทางปฏิบัติที่แนะนำสำหรับการรักษาความปลอดภัยออนไลน์

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • ใช้เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน: มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยสร้างวลีรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและสุ่มจริงๆ
  • เลือกคำที่สุ่มจริงๆ: หลีกเลี่ยงการใช้คำที่มีความหมายส่วนตัวหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัว
  • เพิ่มความซับซ้อนเล็กน้อย: หากต้องการเพิ่มความปลอดภัย สามารถใส่ตัวเลขหรือสัญลักษณ์พิเศษระหว่างคำได้
  • อัปเดตรหัสผ่านเป็นประจำ: เปลี่ยนรหัสผ่านของคุณเป็นประจำเพื่อความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจตรรกะที่อยู่เบื้องหลัง “คำสุ่มสามคำ” และนำไปปรับใช้เพื่อสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยและง่ายต่อการจดจำได้นะครับ!


ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังคำสุ่มสามคำ

AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-03-13 11:50 ‘ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังคำสุ่มสามคำ’ ได้รับการเผยแพร่ตาม UK National Cyber Security Centre กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย


29

Leave a Comment