
ทุก 7 วินาที มีการเสียชีวิตที่ป้องกันได้เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์หรือคลอดบุตร: วิกฤตเงียบที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
วันที่เผยแพร่: 6 เมษายน 2568 (อ้างอิงจากข่าว UN)
ข่าวจากสหประชาชาติเผยให้เห็นสถานการณ์ที่น่าตกใจ: ทุกๆ 7 วินาที ในโลกของเรา มีสตรีเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือการคลอดบุตร นี่ไม่ใช่แค่สถิติ แต่คือชีวิตจริงที่สูญเสียไปอย่างไม่สมควร ซึ่งส่งผลกระทบต่อครอบครัว ชุมชน และอนาคตของสังคม
ทำไมการเสียชีวิตเหล่านี้จึงเกิดขึ้น?
สาเหตุหลักของการเสียชีวิตเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่สามารถป้องกันและแก้ไขได้ เช่น:
- การเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่ไม่ดี: สตรีในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ยังคงเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ ทั้งในช่วงก่อนคลอด ขณะคลอด และหลังคลอด ซึ่งรวมถึงการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีทักษะ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม
- ภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร: ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย เช่น ภาวะตกเลือดหลังคลอด ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (ครรภ์เป็นพิษ) การติดเชื้อ และการคลอดติดขัด ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต หากได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ภาวะเหล่านี้สามารถจัดการได้
- การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น: การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีความเสี่ยงสูงกว่าการตั้งครรภ์ในสตรีวัยเจริญพันธุ์ เนื่องจากร่างกายยังไม่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร นอกจากนี้ วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์มักเผชิญกับอุปสรรคทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้เข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ยากยิ่งขึ้น
- ความยากจนและสถานะทางสังคม: ความยากจนและสถานะทางสังคมที่ต่ำต้อยส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของสตรี ทำให้พวกเธอขาดสารอาหารที่จำเป็น เข้าถึงน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่เหมาะสมได้ยาก และเสี่ยงต่อการถูกทอดทิ้งหรือถูกทำร้าย
ผลกระทบที่ตามมา
การเสียชีวิตของสตรีระหว่างตั้งครรภ์หรือคลอดบุตรไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวผู้หญิงเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อ:
- ครอบครัว: เด็กกำพร้าที่สูญเสียแม่จะขาดการดูแลเอาใจใส่และความรัก ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจของพวกเขา
- ชุมชน: การสูญเสียสตรีซึ่งมักเป็นผู้ดูแลหลักของครอบครัวและมีบทบาทสำคัญในชุมชน ทำให้ชุมชนอ่อนแอลง
- เศรษฐกิจ: การเสียชีวิตของสตรีวัยเจริญพันธุ์ส่งผลกระทบต่อแรงงานและเศรษฐกิจของประเทศ
เราจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร?
การแก้ไขปัญหาวิกฤตนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ และภาคประชาสังคม แนวทางที่สำคัญมีดังนี้:
- การลงทุนในการดูแลสุขภาพ: รัฐบาลต้องลงทุนในการสร้างระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้สตรีทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึง
- การฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์: การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญในการดูแลสตรีระหว่างตั้งครรภ์และคลอดบุตรเป็นสิ่งจำเป็น
- การให้ความรู้และสร้างความตระหนัก: การให้ความรู้แก่สตรีและชุมชนเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์ การวางแผนครอบครัว และความสำคัญของการดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์และคลอดบุตรเป็นสิ่งสำคัญ
- การแก้ไขปัญหาความยากจนและความไม่เสมอภาค: การแก้ไขปัญหาความยากจนและความไม่เสมอภาคทางสังคมเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับปรุงสุขภาพของสตรี
- การส่งเสริมสิทธิสตรี: การส่งเสริมสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างพลังอำนาจให้แก่สตรีและทำให้พวกเขามีสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง
สรุป
ทุกๆ 7 วินาที มีสตรีเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือการคลอดบุตร นี่คือวิกฤตเงียบที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการลงทุนในการดูแลสุขภาพ การให้ความรู้ การแก้ไขปัญหาความยากจน และการส่งเสริมสิทธิสตรี เพื่อให้สตรีทุกคนมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี
ข่าวจากสหประชาชาติฉบับนี้เป็นสัญญาณเตือนใจว่า เรายังคงต้องทำงานหนักเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 3 (Good Health and Well-being) และเป้าหมายที่ 5 (Gender Equality) เพื่อสร้างโลกที่สตรีทุกคนสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี
การตายที่ป้องกันได้หนึ่งครั้งทุก ๆ 7 วินาทีในระหว่างตั้งครรภ์หรือการคลอดบุตร
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-04-06 12:00 ‘การตายที่ป้องกันได้หนึ่งครั้งทุก ๆ 7 วินาทีในระหว่างตั้งครรภ์หรือการคลอดบุตร’ ได้รับการเผยแพร่ตาม Peace and Security กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
22