คณะกรรมาธิการยุโรปเร่งเครื่อง “ข้อกำหนดด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์” พร้อมแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน (พฤษภาคม 2025),環境イノベーション情報機構


คณะกรรมาธิการยุโรปเร่งเครื่อง “ข้อกำหนดด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์” พร้อมแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน (พฤษภาคม 2025)

บทสรุป:

คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission – EC) ได้ประกาศแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุม เพื่อเร่งการบังคับใช้ “ข้อกำหนดด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์” (Product Sustainability Requirements) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในยุโรป โดยแผนนี้เน้นไปที่การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, การใช้งานที่ยาวนานขึ้น, การซ่อมแซมที่ง่ายขึ้น และการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

รายละเอียดสำคัญ:

  • เป้าหมายหลัก: มุ่งเน้นไปที่การสร้างตลาดเดียวสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต การใช้งาน ไปจนถึงการกำจัด
  • เครื่องมือและกลไก:
    • Eco-design for Sustainable Products Regulation (ESPR): กฎระเบียบนี้เป็นหัวใจหลักของความพยายาม โดยจะกำหนดข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับความทนทาน, ความสามารถในการซ่อมแซม, ความสามารถในการอัพเกรด, และความสามารถในการรีไซเคิลของผลิตภัณฑ์ต่างๆ
    • Digital Product Passport (DPP): ข้อมูลดิจิทัลที่ติดตามผลิตภัณฑ์ตลอดวงจรชีวิต ช่วยให้ผู้บริโภค, ธุรกิจ, และหน่วยงานกำกับดูแล สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย เช่น ส่วนประกอบ, วัสดุ, และวิธีการกำจัด
    • ขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility – EPR): ผู้ผลิตจะต้องรับผิดชอบมากขึ้นในการจัดการผลิตภัณฑ์เมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งาน เพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์เป้าหมาย: แผนปฏิบัติการจะเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง เช่น:
    • สิ่งทอ
    • อิเล็กทรอนิกส์
    • แบตเตอรี่
    • บรรจุภัณฑ์
    • พลาสติก
    • วัสดุก่อสร้าง
  • ขั้นตอนต่อไป: คณะกรรมาธิการยุโรปจะทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอุตสาหกรรม ผู้บริโภค และองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อพัฒนากฎระเบียบและมาตรฐานที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์

ผลกระทบที่คาดหวัง:

  • ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน: การใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ยาวนานขึ้น, การซ่อมแซมที่ง่ายขึ้น, และการนำกลับมาใช้ใหม่ จะช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจที่หมุนเวียน และลดการพึ่งพาการสกัดทรัพยากรใหม่
  • เพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบ: Digital Product Passport จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น และช่วยให้ผู้ผลิตมีความรับผิดชอบต่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ของตน
  • สร้างโอกาสทางธุรกิจ: บริษัทที่สามารถปรับตัวเข้ากับข้อกำหนดด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ได้ จะได้รับประโยชน์จากตลาดที่เติบโตขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความสำคัญในบริบทของประเทศไทย:

แม้ว่าแผนปฏิบัติการนี้จะมุ่งเน้นไปที่ยุโรป แต่ก็มีความสำคัญสำหรับประเทศไทยด้วยเช่นกัน เนื่องจาก:

  • การส่งออก: ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าไปยังยุโรป ดังนั้น ผู้ผลิตไทยจะต้องปรับตัวให้เข้ากับข้อกำหนดด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงตลาดในยุโรปได้
  • การพัฒนาอย่างยั่งยืน: การนำหลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ในประเทศไทย จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • โอกาสทางธุรกิจ: การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สำหรับผู้ประกอบการไทย

สรุป:

แผนปฏิบัติการของคณะกรรมาธิการยุโรปในการเร่งการบังคับใช้ข้อกำหนดด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเตรียมพร้อมและปรับตัวให้เข้ากับข้อกำหนดเหล่านี้ จะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ผลิตทั่วโลก รวมถึงผู้ผลิตไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ


欧州委員会、製品の持続可能性要件の適用を進める作業計画を公表


AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-05-07 01:00 ‘欧州委員会、製品の持続可能性要件の適用を進める作業計画を公表’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 環境イノベーション情報機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย


207

Leave a Comment