ค้นพบวิธีใหม่! ประเมินปริมาณโพแทสเซียมในไม้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ,森林総合研究所


ค้นพบวิธีใหม่! ประเมินปริมาณโพแทสเซียมในไม้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 (ค.ศ. 2025) สถาบันวิจัยป่าไม้และผลิตภัณฑ์ป่าไม้แห่งประเทศญี่ปุ่น (Forestry and Forest Products Research Institute: FFPRI) ได้ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการพัฒนาวิธีการประเมินความเข้มข้นของโพแทสเซียม (Potassium: K) ในเนื้อไม้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ บทความนี้จะสรุปข้อมูลสำคัญจากประกาศดังกล่าวในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

ทำไมการวัดปริมาณโพแทสเซียมในไม้จึงสำคัญ?

โพแทสเซียมเป็นธาตุอาหารที่สำคัญสำหรับพืช รวมถึงต้นไม้ การทราบปริมาณโพแทสเซียมในเนื้อไม้มีประโยชน์หลายด้าน:

  • การจัดการป่าไม้: ช่วยให้เข้าใจการหมุนเวียนของธาตุอาหารในระบบนิเวศป่าไม้ และวางแผนการจัดการป่าไม้ที่เหมาะสม เช่น การใส่ปุ๋ย
  • การใช้ประโยชน์จากไม้: ปริมาณโพแทสเซียมในไม้มีผลต่อคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของไม้ เช่น ความแข็งแรง ความทนทานต่อการผุพัง และการเผาไหม้ การทราบปริมาณโพแทสเซียมช่วยในการเลือกใช้ไม้ให้เหมาะสมกับแต่ละงาน
  • การศึกษาทางวิทยาศาสตร์: ช่วยในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างชนิดพันธุ์ไม้ สภาพแวดล้อม และปริมาณธาตุอาหารในเนื้อไม้

ความท้าทายในการวัดปริมาณโพแทสเซียมแบบเดิม:

วิธีการวัดปริมาณโพแทสเซียมในไม้แบบเดิม มักจะต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อน เสียเวลา และต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น การย่อยตัวอย่างไม้ด้วยกรด การวัดด้วยเทคนิค ICP-AES (Inductively Coupled Plasma Atomic Emission Spectrometry) ซึ่งเป็นวิธีที่แม่นยำ แต่มีค่าใช้จ่ายสูง

เทคนิคใหม่: การประเมินอย่างรวดเร็วและไม่ทำลายตัวอย่าง

สถาบันวิจัยป่าไม้ฯ ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่สามารถประเมินปริมาณโพแทสเซียมในไม้ได้อย่างรวดเร็วและไม่ทำลายตัวอย่าง โดยใช้ เทคนิคสเปกโทรสโกปีใกล้รังสีอินฟราเรด (Near-Infrared Spectroscopy: NIRS)

หลักการทำงานของเทคนิค NIRS:

  1. ฉายแสงอินฟราเรดใกล้ (Near-Infrared light) ไปยังตัวอย่างไม้
  2. วัดปริมาณแสงที่สะท้อนกลับหรือทะลุผ่านตัวอย่าง
  3. วิเคราะห์สเปกตรัม (รูปแบบการดูดกลืนแสง) ที่ได้ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบทางเคมีของไม้ รวมถึงปริมาณโพแทสเซียม
  4. ใช้แบบจำลองทางสถิติที่สร้างขึ้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลไม้ตัวอย่างที่ทราบปริมาณโพแทสเซียมอย่างแม่นยำ (จากการวัดแบบดั้งเดิม) เพื่อทำนายปริมาณโพแทสเซียมในตัวอย่างใหม่

ข้อดีของเทคนิคใหม่:

  • รวดเร็ว: ใช้เวลาในการวัดและวิเคราะห์เพียงไม่กี่นาทีต่อตัวอย่าง
  • ไม่ทำลายตัวอย่าง: ตัวอย่างไม้ไม่ได้รับความเสียหายจากการวัด สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ต่อได้
  • ไม่ต้องใช้สารเคมี: ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
  • ลดต้นทุน: ประหยัดค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์
  • พกพาสะดวก: เครื่องมือ NIRS บางชนิดมีขนาดเล็ก สามารถนำไปใช้ในสนามได้

ผลกระทบและความคาดหวังในอนาคต:

เทคนิคใหม่นี้จะช่วยให้การวัดปริมาณโพแทสเซียมในไม้เป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการจัดการป่าไม้ การใช้ประโยชน์จากไม้ และการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในอนาคต คาดว่าเทคนิคนี้จะถูกพัฒนาให้สามารถประเมินปริมาณธาตุอาหารอื่นๆ ในไม้ได้พร้อมกัน รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ NIRS ที่มีราคาถูกและใช้งานง่าย เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป

สรุป:

การพัฒนาวิธีการประเมินปริมาณโพแทสเซียมในไม้ด้วยเทคนิค NIRS ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ยั่งยืนสำหรับการจัดการป่าไม้และการใช้ประโยชน์จากไม้ เทคนิคนี้มีศักยภาพในการช่วยให้เราเข้าใจระบบนิเวศป่าไม้ได้ดีขึ้น และใช้ทรัพยากรป่าไม้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นเป็นการสรุปและเรียบเรียงจากข้อมูลที่ระบุไว้ใน URL ที่ให้มา ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จากเอกสารต้นฉบับของสถาบันวิจัยป่าไม้ฯ


木材に含まれるカリウムの濃度を迅速に推定する


AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-05-20 09:01 ‘木材に含まれるカリウムの濃度を迅速に推定する’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 森林総合研究所 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย


99

Leave a Comment