
เอเชียครองแชมป์! 80% ของโรงงานผลิตชิปใหม่ทั่วโลก จะเกิดขึ้นในเอเชียภายในปี 2030
ข่าวใหญ่สำหรับวงการเทคโนโลยี! องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ได้เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 (ค.ศ.2025) อ้างอิงข้อมูลจาก SEMI (สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์) ระบุว่า ภายในปี 2030 โรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ที่สร้างขึ้นใหม่ทั่วโลก จะมีถึง 80% ที่อยู่ในทวีปเอเชีย
ทำไมเอเชียถึงเนื้อหอม?
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เอเชียกลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์คือ:
- ความต้องการที่สูงขึ้น: ความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, รถยนต์ไฟฟ้า, และ AI ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องเร่งขยายกำลังการผลิต
- นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล: รัฐบาลในหลายประเทศเอเชีย เช่น จีน, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, และญี่ปุ่น ได้ออกมาตรการสนับสนุนต่างๆ เพื่อดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เช่น การให้เงินอุดหนุน, การลดหย่อนภาษี, และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- ห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง: เอเชียเป็นที่ตั้งของห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่งและครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ, การผลิต, การทดสอบ, ไปจนถึงการประกอบ
- ต้นทุนที่แข่งขันได้: แม้ว่าค่าแรงในบางประเทศเอเชียจะสูงขึ้น แต่โดยรวมแล้วต้นทุนการผลิตในเอเชียยังคงต่ำกว่าในประเทศตะวันตก
ใครได้ประโยชน์จากเทรนด์นี้?
ประเทศที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในเอเชีย ได้แก่:
- ไต้หวัน: ไต้หวันเป็นผู้นำด้านการผลิตชิปในปัจจุบัน และมีบริษัทอย่าง TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก
- เกาหลีใต้: เกาหลีใต้เป็นที่ตั้งของบริษัท Samsung และ SK Hynix ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำชั้นนำของโลก
- จีน: จีนมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และได้ลงทุนอย่างมหาศาลในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
- ญี่ปุ่น: ญี่ปุ่นมีเทคโนโลยีและวัสดุที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิป และรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้
- ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม, มาเลเซีย, และไทย ก็กำลังพยายามดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
ผลกระทบต่อประเทศไทย
การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในเอเชียมีผลกระทบต่อประเทศไทยในหลายด้าน:
- โอกาสในการลงทุน: ประเทศไทยมีโอกาสในการดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ต่างชาติ โดยเฉพาะในด้านการประกอบและทดสอบชิป
- การสร้างงาน: การลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จะช่วยสร้างงานใหม่ๆ ในประเทศไทย
- การพัฒนาเทคโนโลยี: การลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จะช่วยกระตุ้นการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศไทย
- การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: การมีอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระดับโลก
สรุป
เอเชียกำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตชิปของโลก และประเทศไทยมีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากเทรนด์นี้ รัฐบาลและภาคเอกชนควรทำงานร่วมกันเพื่อดึงดูดการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศไทย
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อ้างอิงจากรายงานของ JETRO และ SEMI ที่เผยแพร่ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 (ค.ศ.2025) สถานการณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
米SEMI、2030年まで新設の半導体製造施設の8割がアジア
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-05-23 02:00 ‘米SEMI、2030年まで新設の半導体製造施設の8割がアジア’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย
315