ลาวได้รับการจัดอันดับเป็น “ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ” ภายใต้กฎหมาย EU ว่าด้วยการยุติการตัดไม้ทำลายป่า,日本貿易振興機構


ลาวได้รับการจัดอันดับเป็น “ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ” ภายใต้กฎหมาย EU ว่าด้วยการยุติการตัดไม้ทำลายป่า

บทสรุป: องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ได้เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เกี่ยวกับกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป (EU) ที่มีชื่อว่า “EU Deforestation Regulation” หรือ “EUDR” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าไปยัง EU ข่าวที่น่าสนใจคือ ลาวได้รับการประเมินให้เป็น “ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ” ภายใต้กฎหมายฉบับนี้

กฎหมาย EUDR คืออะไร?

EUDR เป็นกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทที่นำเข้าสินค้าบางประเภทไปยัง EU ต้องแสดงหลักฐานว่าสินค้าเหล่านั้นไม่ได้มาจากการตัดไม้ทำลายป่าหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2563 กฎหมายนี้ครอบคลุมสินค้าสำคัญๆ เช่น:

  • ปศุสัตว์: วัว
  • โกโก้
  • กาแฟ
  • ปาล์มน้ำมัน
  • ยางพารา
  • ไม้
  • ถั่วเหลือง

ความหมายของการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ”

การที่ลาวได้รับการจัดอันดับเป็น “ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ” หมายความว่า:

  • ขั้นตอนที่ง่ายกว่า: บริษัทที่นำเข้าสินค้าจากลาวไปยัง EU จะต้องเผชิญกับกระบวนการตรวจสอบ (Due Diligence) ที่ง่ายกว่าบริษัทที่นำเข้าสินค้าจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงกว่า
  • การตรวจสอบน้อยลง: หน่วยงานของ EU จะทำการตรวจสอบสินค้าที่มาจากลาวน้อยกว่าสินค้าที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงกว่า
  • ข้อได้เปรียบทางการค้า: ลาวอาจได้รับประโยชน์จากการที่ผู้ซื้อใน EU มองว่าสินค้าจากลาวมีความเสี่ยงในการตัดไม้ทำลายป่าน้อยกว่าสินค้าจากประเทศอื่น

ทำไมลาวจึงได้รับการจัดอันดับให้มีความเสี่ยงต่ำ?

สาเหตุที่ลาวได้รับการจัดอันดับให้มีความเสี่ยงต่ำอาจมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น:

  • นโยบายและการกำกับดูแล: ลาวอาจมีนโยบายและการกำกับดูแลที่เข้มงวดในการจัดการป่าไม้และป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า
  • พื้นที่ป่าไม้ที่ยังคงอยู่: ลาวอาจมีสัดส่วนพื้นที่ป่าไม้ที่ยังคงอยู่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
  • การบังคับใช้กฎหมาย: ลาวอาจมีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย

แม้ว่าข่าวนี้จะเกี่ยวกับลาวโดยตรง แต่ก็มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องกับการค้ากับ EU หรือที่ทำการค้าชายแดนกับลาว ดังนี้:

  • การแข่งขัน: สินค้าจากลาวอาจมีความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด EU มากขึ้น เนื่องจากมีขั้นตอนการตรวจสอบที่ง่ายกว่า
  • การปรับตัว: ผู้ประกอบการไทยที่นำเข้าสินค้าจากลาวเพื่อส่งต่อไปยัง EU อาจต้องตรวจสอบและปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎหมาย EUDR เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่ส่งออกไม่ได้มาจากการตัดไม้ทำลายป่า
  • โอกาส: ผู้ประกอบการไทยอาจพิจารณาแหล่งวัตถุดิบจากลาวที่เป็นไปตามข้อกำหนด EUDR เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทางการค้า

สรุป

การที่ลาวได้รับการจัดอันดับเป็น “ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ” ภายใต้กฎหมาย EUDR เป็นข่าวดีสำหรับลาวและอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันทางการค้าในตลาด EU ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์และปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่นี้เพื่อรักษาและเพิ่มโอกาสทางการค้ากับ EU

ข้อควรจำ:

  • สถานะ “ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ” สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต หากสถานการณ์การตัดไม้ทำลายป่าในลาวเปลี่ยนแปลงไป
  • แม้ว่าลาวจะมีความเสี่ยงต่ำ แต่ผู้ประกอบการที่นำเข้าสินค้าจากลาวไปยัง EU ก็ยังคงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นๆ ของกฎหมาย EUDR

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และทำให้เข้าใจกฎหมาย EUDR และผลกระทบต่อลาวและประเทศไทยได้ง่ายขึ้น


EUの森林破壊防止デューディリジェンス規則、ラオスを「低リスク国」と評価


AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-05-30 07:20 ‘EUの森林破壊防止デューディリジェンス規則、ラオスを「低リスク国」と評価’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย


243

Leave a Comment