จีนเปิดตัว “ฐานข้อมูลถ้ำพระคัมภีร์ดิจิทัล” ของสถาบันวิจัยตุนหวง: ก้าวสำคัญในการอนุรักษ์และเข้าถึงมรดกโลก,カレントアウェアネス・ポータル


จีนเปิดตัว “ฐานข้อมูลถ้ำพระคัมภีร์ดิจิทัล” ของสถาบันวิจัยตุนหวง: ก้าวสำคัญในการอนุรักษ์และเข้าถึงมรดกโลก

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 (เวลา 02:49 น.) カレントアウェアネス・ポータル ได้รายงานข่าวสำคัญเกี่ยวกับการเปิดตัว “ฐานข้อมูลถ้ำพระคัมภีร์ดิจิทัล” (Digital Scripture Cave Database) โดยสถาบันวิจัยตุนหวง (Dunhuang Research Academy) อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการอนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของถ้ำโมเกา (Mogao Caves) หรือ ถ้ำม่อเกา ที่เมืองตุนหวง ประเทศจีน

ความสำคัญของถ้ำโมเกาและถ้ำพระคัมภีร์ (Cave 17)

ถ้ำโมเกาเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) ที่มีชื่อเสียงในด้านจิตรกรรมฝาผนังและประติมากรรมทางพุทธศาสนาอันวิจิตรบรรจง ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ถึง 14 ถ้ำเหล่านี้เป็นแหล่งรวมศิลปะและวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงอิทธิพลของเส้นทางสายไหม (Silk Road) ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต

ภายในถ้ำโมเกา มีถ้ำหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นพิเศษคือ “ถ้ำพระคัมภีร์” (Cave 17) หรือ “ถ้ำห้องสมุด” (Library Cave) ซึ่งถูกปิดผนึกไว้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 11 และถูกค้นพบอีกครั้งในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ภายในถ้ำแห่งนี้พบเอกสารโบราณจำนวนมหาศาล ทั้งพระสูตรทางพุทธศาสนา เอกสารทางราชการ สัญญาซื้อขาย และงานเขียนอื่นๆ ที่เขียนด้วยภาษาต่างๆ เช่น ภาษาจีน ภาษาทิเบต ภาษาสันสกฤต และภาษาอุยกูร์ เอกสารเหล่านี้เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาที่ให้ข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม และสังคมในเอเชียกลาง

“ฐานข้อมูลถ้ำพระคัมภีร์ดิจิทัล”: โอกาสใหม่ในการเข้าถึงมรดกโลก

การเปิดตัว “ฐานข้อมูลถ้ำพระคัมภีร์ดิจิทัล” ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของสถาบันวิจัยตุนหวงในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ฐานข้อมูลนี้เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมภาพถ่ายความละเอียดสูง ข้อมูลรายละเอียด และคำอธิบายประกอบของเอกสารโบราณจำนวนมากจากถ้ำพระคัมภีร์

ประโยชน์ของการสร้างฐานข้อมูลดิจิทัล:

  • การอนุรักษ์: ช่วยลดความจำเป็นในการจัดการเอกสารต้นฉบับโดยตรง ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสและการใช้งาน
  • การเข้าถึง: ทำให้ผู้สนใจ นักวิจัย นักเรียน และบุคคลทั่วไปทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลอันล้ำค่าเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไปยังตุนหวง
  • การศึกษา: เอื้อต่อการศึกษาค้นคว้าวิจัยในหลากหลายสาขา เช่น ประวัติศาสตร์ ศาสนา ภาษาศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม
  • การเผยแพร่: ช่วยให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของถ้ำโมเกาและเส้นทางสายไหมแพร่หลายไปทั่วโลก

คาดการณ์ผลกระทบ

การเปิดตัว “ฐานข้อมูลถ้ำพระคัมภีร์ดิจิทัล” คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อวงการวิชาการและวัฒนธรรม โดยจะ:

  • ส่งเสริมการวิจัย: กระตุ้นการศึกษาค้นคว้าวิจัยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับถ้ำโมเกาและเส้นทางสายไหม
  • สร้างแรงบันดาลใจ: สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจและตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม
  • ส่งเสริมการท่องเที่ยว: ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมถ้ำโมเกาและสัมผัสความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์

สรุป

การเปิดตัว “ฐานข้อมูลถ้ำพระคัมภีร์ดิจิทัล” เป็นก้าวสำคัญในการอนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของถ้ำโมเกาและเอกสารโบราณจากถ้ำพระคัมภีร์ ฐานข้อมูลนี้จะช่วยให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม และสังคมในเอเชียกลางได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ถือเป็นโครงการที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัลในการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกโลกให้คงอยู่สืบไป


中国・敦煌研究院、「デジタル蔵経洞」データベースを正式公開


AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-06-04 02:49 ‘中国・敦煌研究院、「デジタル蔵経洞」データベースを正式公開’ ได้รับการเผยแพร่ตาม カレントアウェアネス・ポータル กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย


747

Leave a Comment