
REACH คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ และเกี่ยวข้องกับคุณอย่างไร? (อิงตามข้อมูลจาก 環境イノベーション情報機構)
REACH เป็นกฎระเบียบที่สำคัญของสหภาพยุโรป (EU) ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจทั่วโลก รวมถึงธุรกิจในญี่ปุ่นและไทยด้วย บทความนี้จะอธิบาย REACH ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย โดยอิงตามข้อมูลจาก 環境イノベーション情報機構 (Environmental Innovation Information Organization) ประเทศญี่ปุ่น
REACH คืออะไร?
REACH ย่อมาจาก Registration, Evaluation, Authorisation and Restriction of Chemicals ซึ่งหมายถึง การลงทะเบียน การประเมิน การอนุญาต และการจำกัดการใช้สารเคมี เป็นกฎระเบียบที่สหภาพยุโรป (EU) บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2007 เพื่อ:
- ปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม: โดยการระบุและจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากสารเคมี
- ปรับปรุงการแข่งขัน: ในอุตสาหกรรมเคมีของยุโรป
- ส่งเสริมวิธีการประเมินอันตรายของสารเคมีทางเลือก: ลดการทดลองในสัตว์
ทำไม REACH ถึงสำคัญ?
REACH มีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี ไม่ว่าจะเป็น:
- ผู้ผลิต (Manufacturers): ผลิตสารเคมีในปริมาณที่กำหนด (มากกว่า 1 ตันต่อปี)
- ผู้นำเข้า (Importers): นำเข้าสารเคมีเข้าสู่ EU ในปริมาณที่กำหนด (มากกว่า 1 ตันต่อปี)
- ผู้ใช้ปลายทาง (Downstream Users): ใช้สารเคมีในการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ
ถ้าธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องกับสารเคมีใน EU ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ REACH
REACH ทำงานอย่างไร?
REACH มีกระบวนการหลัก 4 ขั้นตอน:
- การลงทะเบียน (Registration): ผู้ผลิตและผู้นำเข้าสารเคมีต้องลงทะเบียนสารเคมีของตนกับ European Chemicals Agency (ECHA) โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของสาร ความเสี่ยง และวิธีการใช้ที่ปลอดภัย
- การประเมิน (Evaluation): ECHA จะประเมินข้อมูลที่ได้รับเพื่อตรวจสอบว่าสารเคมีนั้นปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมหรือไม่
- การอนุญาต (Authorisation): สารเคมีที่มีความเสี่ยงสูง (Substances of Very High Concern – SVHCs) อาจต้องได้รับการอนุญาตก่อนที่จะนำไปใช้ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ธุรกิจมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
- การจำกัด (Restriction): สารเคมีบางชนิดอาจถูกจำกัดการใช้ในบางผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการ หากพบว่ามีความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้
ผลกระทบต่อธุรกิจในไทยและญี่ปุ่น:
- การส่งออกไปยัง EU: หากธุรกิจของคุณส่งออกสินค้าที่มีส่วนประกอบของสารเคมีไปยัง EU คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารเคมีเหล่านั้นได้รับการลงทะเบียนภายใต้ REACH หรือไม่ มิฉะนั้น สินค้าของคุณอาจถูกปฏิเสธไม่ให้นำเข้า
- ห่วงโซ่อุปทาน: REACH ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด หากคุณซื้อสารเคมีจากซัพพลายเออร์ใน EU คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าซัพพลายเออร์ของคุณปฏิบัติตาม REACH และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่คุณ
- ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์: ผู้ผลิตและผู้นำเข้ามีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของตน หากผลิตภัณฑ์ของคุณมีสารเคมีที่อยู่ในรายการ SVHC คุณอาจต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบ
จะทำอย่างไรเพื่อปฏิบัติตาม REACH:
- ระบุสารเคมีที่เกี่ยวข้อง: ตรวจสอบสารเคมีที่คุณใช้ในธุรกิจของคุณ และตรวจสอบว่าสารเคมีเหล่านั้นอยู่ภายใต้กฎระเบียบ REACH หรือไม่
- ติดต่อซัพพลายเออร์: ติดต่อซัพพลายเออร์ของคุณเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการลงทะเบียนของสารเคมีที่คุณซื้อ
- ลงทะเบียนสารเคมี (ถ้าจำเป็น): หากคุณเป็นผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสารเคมีในปริมาณที่กำหนด คุณจะต้องลงทะเบียนสารเคมีของคุณกับ ECHA
- ติดตามข่าวสาร: ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ REACH และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
- ขอความช่วยเหลือ: หากคุณไม่แน่ใจว่าจะปฏิบัติตาม REACH อย่างไร คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้าน REACH หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:
- European Chemicals Agency (ECHA): เว็บไซต์หลักของ ECHA (ภาษาอังกฤษ)
- 환경イノベーション情報機構 (Environmental Innovation Information Organization): เว็บไซต์ขององค์กรในญี่ปุ่น (ภาษาญี่ปุ่น)
สรุป:
REACH เป็นกฎระเบียบที่สำคัญที่ธุรกิจต้องให้ความสนใจ หากคุณเกี่ยวข้องกับสารเคมีใน EU ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามกฎระเบียบ REACH เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและความเสียหายต่อชื่อเสียงของธุรกิจ การทำความเข้าใจ REACH และปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคม
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-06-04 08:21 ‘REACH規則について’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 環境イノベーション情報機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย
603