
กูเตอร์เรสเรียกร้องยุติการ “ปล้นสะดม” ทะเล เปิดฉากการประชุมสุดยอด UN ในฝรั่งเศส: สรุปข่าวสารและผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ข่าวโดยสรุป:
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2025 เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ได้กล่าวเรียกร้องให้ยุติการ “ปล้นสะดม” ทะเล ในระหว่างการเปิดการประชุมสุดยอด UN ที่จัดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปกป้องมหาสมุทรจากกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่างๆ และรักษาทรัพยากรทางทะเลสำหรับคนรุ่นหลัง
ประเด็นสำคัญ:
-
“การปล้นสะดม” ทางทะเล: เลขาธิการ UN ใช้คำนี้เพื่อเน้นถึงการกระทำที่เป็นอันตรายต่อมหาสมุทร ซึ่งอาจรวมถึง:
- การทำประมงเกินขนาด (Overfishing): การจับปลามากเกินไปจนประชากรปลาไม่สามารถฟื้นตัวได้ทัน
- มลพิษทางทะเล: การปล่อยของเสีย สารเคมี และพลาสติกลงสู่ทะเล
- การทำลายแหล่งที่อยู่อาศัย: การทำลายป่าชายเลน แนวปะการัง และระบบนิเวศทางทะเลอื่นๆ
- การขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ: การสำรวจและขุดเจาะทรัพยากรเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันและมลพิษอื่นๆ
- ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น การเกิดภาวะเป็นกรดในมหาสมุทร (Ocean Acidification) และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น
-
การประชุมสุดยอด UN ในฝรั่งเศส: การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาความท้าทายที่มหาสมุทรเผชิญอยู่ และการหารือเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขเพื่อการจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน
-
ความสำคัญของมหาสมุทร: มหาสมุทรมีความสำคัญต่อชีวิตบนโลกของเราอย่างมาก เพราะ:
- เป็นแหล่งอาหาร: มหาสมุทรเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลก
- ควบคุมสภาพอากาศ: มหาสมุทรมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสภาพอากาศของโลก โดยการดูดซับความร้อนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- สร้างออกซิเจน: พืชทะเล เช่น สาหร่ายทะเล ผลิตออกซิเจนที่จำเป็นต่อการหายใจของมนุษย์และสัตว์
ความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ:
การ “ปล้นสะดม” ทางทะเลมีผลกระทบโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และในทางกลับกัน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็ส่งผลกระทบอย่างมากต่อมหาสมุทร:
- ภาวะเป็นกรดในมหาสมุทร: มหาสมุทรดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากชั้นบรรยากาศ เมื่อ CO2 ละลายในน้ำทะเล จะทำให้เกิดภาวะเป็นกรด ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่มีเปลือกแข็ง เช่น ปะการัง หอย และกุ้ง
- อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดคลื่นความร้อนในทะเล (Marine Heatwaves) ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล ทำให้ปะการังฟอกขาว และปลาอพยพไปยังแหล่งที่เย็นกว่า
- ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น: การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกและการขยายตัวของน้ำทะเลเนื่องจากความร้อน ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อชุมชนชายฝั่งและระบบนิเวศชายฝั่ง
- การทำลายป่าชายเลน: ป่าชายเลนเป็นแนวป้องกันชายฝั่งจากพายุและคลื่นซัดชายฝั่ง และยังเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ที่สำคัญ การทำลายป่าชายเลนทำให้ความสามารถในการดูดซับคาร์บอนลดลง และทำให้ชายฝั่งอ่อนแอต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข:
เพื่อยุติการ “ปล้นสะดม” ทางทะเล และลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อมหาสมุทร มีความจำเป็นที่จะต้อง:
- จัดการประมงอย่างยั่งยืน: กำหนดโควต้าการจับปลาที่เหมาะสม บังคับใช้กฎหมาย และส่งเสริมการทำประมงที่ยั่งยืน
- ลดมลพิษทางทะเล: ลดการปล่อยของเสีย สารเคมี และพลาสติกลงสู่ทะเล สนับสนุนการรีไซเคิล และพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ปกป้องและฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัย: อนุรักษ์ป่าชายเลน แนวปะการัง และระบบนิเวศทางทะเลอื่นๆ
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล และหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน
- สร้างความตระหนัก: ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญของมหาสมุทร และวิธีที่พวกเขาสามารถช่วยปกป้องมหาสมุทรได้
สรุป:
คำเรียกร้องของเลขาธิการ UN ในการยุติการ “ปล้นสะดม” ทางทะเล เป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปกป้องมหาสมุทรจากภัยคุกคามต่างๆ และการจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน การแก้ไขปัญหานี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการรักษาความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจสำหรับคนรุ่นหลัง
Guterres calls for an end to ocean ‘plunder’ as UN summit opens in France
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-06-09 12:00 ‘Guterres calls for an end to ocean ‘plunder’ as UN summit opens in France’ ได้รับการเผยแพร่ตาม Climate Change กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย
251