อุปสรรคทางสังคมและเศรษฐกิจ จุดชนวนวิกฤตภาวะเจริญพันธุ์ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ทางเลือก: UNFPA,Top Stories


อุปสรรคทางสังคมและเศรษฐกิจ จุดชนวนวิกฤตภาวะเจริญพันธุ์ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ทางเลือก: UNFPA

องค์การกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) เผยแพร่รายงานสำคัญเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 (ตามเวลาในข่าวนั้น) โดยเน้นย้ำว่า วิกฤตภาวะเจริญพันธุ์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกนั้นไม่ได้เกิดจากการที่ผู้คน “เลือก” ที่จะมีลูกน้อยลง แต่เป็นผลมาจากอุปสรรคทางสังคมและเศรษฐกิจที่ขัดขวางการตัดสินใจของผู้คนในการมีครอบครัว

ใจความสำคัญของรายงาน:

  • ภาวะเจริญพันธุ์ที่ลดลงไม่ใช่เรื่องของ “การเลือก” อย่างเดียว: UNFPA ชี้ให้เห็นว่าการที่อัตราการเกิดลดลงในหลายประเทศไม่ได้เกิดจากการที่ผู้คนเปลี่ยนใจเรื่องการมีลูกเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่ทำให้การมีลูกกลายเป็นเรื่องยากลำบาก หรือแม้กระทั่งเป็นไปไม่ได้สำหรับบางคน
  • อุปสรรคทางสังคมและเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญ: อุปสรรคเหล่านี้รวมถึง:
    • ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ: การว่างงาน, ค่าครองชีพที่สูง, และความไม่แน่นอนทางการเงิน ทำให้ผู้คนลังเลที่จะมีลูก เพราะกังวลว่าจะไม่สามารถเลี้ยงดูพวกเขาได้อย่างเหมาะสม
    • การเข้าถึงการศึกษาและการจ้างงานสำหรับสตรี: เมื่อสตรีได้รับการศึกษาและการจ้างงานที่ดีขึ้น พวกเขามักจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองและอาชีพการงานก่อนที่จะมีลูก นอกจากนี้ ยังอาจมีข้อจำกัดในการสนับสนุนด้านการดูแลเด็ก ทำให้การทำงานและการเลี้ยงลูกพร้อมกันเป็นเรื่องท้าทาย
    • การขาดการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์: การขาดการเข้าถึงบริการวางแผนครอบครัวที่มีคุณภาพ อาจนำไปสู่การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่งส่งผลกระทบต่ออนาคตของผู้หญิงและครอบครัว
    • ความไม่เท่าเทียมทางเพศ: ในสังคมที่ผู้หญิงยังคงแบกรับภาระในการดูแลบ้านและลูกมากกว่าผู้ชาย การมีลูกอาจทำให้ผู้หญิงต้องเสียสละอาชีพการงานและความเป็นอิสระ
    • ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโลก: ความกังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน, ความขัดแย้ง, และความไม่แน่นอนทางการเมือง อาจทำให้ผู้คนลังเลที่จะมีลูก เพราะกังวลว่าลูกของพวกเขาจะต้องเผชิญกับโลกที่ไม่มั่นคง
  • ผลกระทบต่อสังคม: ภาวะเจริญพันธุ์ที่ลดลงอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น:
    • สังคมสูงวัย: จำนวนประชากรวัยทำงานลดลง ขณะที่จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบประกันสังคมและระบบสาธารณสุข
    • การขาดแคลนแรงงาน: จำนวนคนทำงานลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
    • ความเหลื่อมล้ำทางสังคม: ภาวะเจริญพันธุ์ที่ลดลงอาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสมากที่สุด เพราะพวกเขาอาจไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการเลี้ยงดูบุตรได้

สิ่งที่ควรทำ:

UNFPA เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อแก้ไขอุปสรรคทางสังคมและเศรษฐกิจที่ขัดขวางการตัดสินใจของผู้คนในการมีครอบครัว ซึ่งรวมถึง:

  • ส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ: สร้างงานที่มีรายได้ดี, ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้, และให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ครอบครัวที่มีรายได้น้อย
  • ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ: สนับสนุนให้ผู้หญิงได้รับการศึกษาและการจ้างงานที่ดี, ลดภาระในการดูแลบ้านและลูกให้กับผู้หญิง, และส่งเสริมให้ผู้ชายมีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูก
  • เพิ่มการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์: ให้บริการวางแผนครอบครัวที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง, และให้ความรู้เกี่ยวกับอนามัยเจริญพันธุ์แก่เยาวชน
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลี้ยงดูบุตร: จัดให้มีการดูแลเด็กที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง, สนับสนุนนโยบายที่เป็นมิตรต่อครอบครัว, และสร้างชุมชนที่ปลอดภัยและสนับสนุน

โดยสรุป: รายงานของ UNFPA เน้นย้ำว่า วิกฤตภาวะเจริญพันธุ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนั้นเป็นปัญหาที่ซับซ้อน ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขด้วยการดำเนินการที่ครอบคลุมและยั่งยืน การแก้ไขอุปสรรคทางสังคมและเศรษฐกิจที่ขัดขวางการตัดสินใจของผู้คนในการมีครอบครัว จะช่วยให้ผู้คนสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการมีลูกได้อย่างอิสระและมีความรับผิดชอบ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว


Social and economic barriers, not choice, driving global fertility crisis: UNFPA


AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-06-10 12:00 ‘Social and economic barriers, not choice, driving global fertility crisis: UNFPA’ ได้รับการเผยแพร่ตาม Top Stories กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย


336

Leave a Comment