
การประชุมสุดยอดด้านมหาสมุทรแห่งสหประชาชาติ ณ เมืองนีซ ปิดฉากลงด้วยคลื่นแห่งพันธสัญญา (2025-06-13)
การประชุมสุดยอดด้านมหาสมุทรแห่งสหประชาชาติ (UN Ocean Summit) ซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ได้ปิดฉากลงอย่างสวยงามในวันที่ 13 มิถุนายน 2025 พร้อมกับ “คลื่นแห่งพันธสัญญา” จากนานาประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่มุ่งมั่นร่วมกันในการอนุรักษ์และฟื้นฟูมหาสมุทรของโลก
ใจความสำคัญของการประชุม:
การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งของมหาสมุทรต่อความอยู่รอดของมนุษย์และโลก เนื่องจากมหาสมุทรเป็นแหล่งอาหารสำคัญ ควบคุมสภาพอากาศ และเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด อย่างไรก็ตาม มหาสมุทรกำลังเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย เช่น มลพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประมงเกินขนาด และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
พันธสัญญาที่สำคัญ:
- การลดมลพิษทางทะเล: หลายประเทศให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดปริมาณขยะพลาสติกที่ไหลลงสู่ทะเล โดยมีเป้าหมายในการลดขยะพลาสติกลง 50% ภายในปี 2030 นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการกำจัดขยะพลาสติกออกจากทะเล
- การจัดการประมงอย่างยั่งยืน: มีการตกลงที่จะบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมการประมงผิดกฎหมาย (IUU fishing) และส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจว่าทรัพยากรทางทะเลจะไม่ถูกใช้จนหมด
- การปกป้องพื้นที่ทางทะเล: หลายประเทศประกาศว่าจะขยายพื้นที่คุ้มครองทางทะเล (Marine Protected Areas – MPAs) เพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศที่สำคัญ โดยมีเป้าหมายที่จะปกป้อง 30% ของมหาสมุทรภายในปี 2030
- การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: มีการหารือถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อมหาสมุทร เช่น การเป็นกรดในมหาสมุทร (ocean acidification) และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และมีการตกลงที่จะดำเนินมาตรการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปรับตัวต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น
- การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม: มีการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสำรวจและทำความเข้าใจมหาสมุทรให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการประมงและการขนส่งทางทะเล
ผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ:
การอนุรักษ์และฟื้นฟูมหาสมุทรไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ดังนี้
- การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ: การอนุรักษ์แนวปะการังและระบบนิเวศทางทะเลอื่นๆ จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น
- การประมงที่ยั่งยืน: การจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุตสาหกรรมการประมงจะสามารถสร้างรายได้และอาหารให้กับผู้คนในระยะยาว
- พลังงานหมุนเวียน: มหาสมุทรเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญ เช่น พลังงานคลื่นและพลังงานลม ซึ่งสามารถช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
- การสร้างงาน: การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่ออนุรักษ์มหาสมุทรจะสร้างงานใหม่ๆ ในสาขาต่างๆ เช่น การวิจัย การพัฒนา และการจัดการทรัพยากร
โดยสรุป:
การประชุมสุดยอดด้านมหาสมุทรแห่งสหประชาชาติ ณ เมืองนีซ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความตระหนักและความร่วมมือระหว่างประเทศในการอนุรักษ์และฟื้นฟูมหาสมุทร การให้คำมั่นสัญญาจากนานาประเทศและภาคส่วนต่างๆ เป็นสัญญาณที่ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการนำพันธสัญญาเหล่านั้นไปปฏิบัติจริงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มหาสมุทรของเรายังคงเป็นแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัย และเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมสภาพอากาศของโลกต่อไป
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าในการดำเนินงานตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ในการประชุม
- สนับสนุนองค์กรและโครงการที่ทำงานด้านการอนุรักษ์มหาสมุทร
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัวเพื่อลดผลกระทบต่อมหาสมุทร เช่น ลดการใช้พลาสติก สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน และเลือกรับประทานอาหารทะเลที่มาจากการประมงที่ยั่งยืน
UN ocean summit in Nice closes with wave of commitments
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-06-13 12:00 ‘UN ocean summit in Nice closes with wave of commitments’ ได้รับการเผยแพร่ตาม Economic Development กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย
49