
เสียงเตือนจากแอฟริกา: สงครามในซูดาน กระตุ้นความเสี่ยงของอหิวาตกโรคและมาลาเรียที่น่าเป็นห่วง
ซูดาน, 28 พฤษภาคม 2568 – สถานการณ์สงครามที่ยืดเยื้อในประเทศซูดานกำลังสร้างผลกระทบที่รุนแรงเกินกว่าจะคาดคิด ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังเป็นตัวเร่งที่น่ากังวลให้โรคระบาดร้ายแรงอย่างอหิวาตกโรคและมาลาเรียแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ตามรายงานล่าสุดจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568
สงครามที่ปะทุขึ้นได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของซูดานอย่างแสนสาหัส ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบสาธารณสุข ระบบน้ำประปา และสุขอนามัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ การเข้าถึงน้ำสะอาดและบริการด้านสุขอนามัยที่ถูกขัดขวาง ทำให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและกลุ่มเปราะบาง ต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูงในการได้รับเชื้ออหิวาตกโรค ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย
นอกจากนี้ ความขัดแย้งยังทำให้การดูแลสุขภาพและการควบคุมพาหะนำโรคอย่างยุงที่เป็นพาหะของมาลาเรียทำได้ยากลำบากยิ่งขึ้น การโยกย้ายถิ่นฐานของผู้คนจำนวนมาก การอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แออัดและขาดสุขอนามัยที่ดี ล้วนเป็นเงื่อนไขที่เอื้อต่อการแพร่ระบาดของมาลาเรียอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่อาการแทรกซ้อนที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต
UNICEF เผยข้อมูลสำคัญที่น่าเป็นห่วง:
- ระบบสาธารณสุขล่มสลาย: คลินิกและโรงพยาบาลจำนวนมากได้รับความเสียหายหรือถูกปิดการใช้งาน ทำให้การเข้าถึงการรักษาพยาบาลพื้นฐานเป็นไปได้ยากลำบาก บุคลากรทางการแพทย์เองก็ได้รับผลกระทบ ทำให้กำลังคนในการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดมีจำกัด
- ความขาดแคลนน้ำสะอาดและสุขอนามัย: การหยุดชะงักของบริการน้ำประปาและการเข้าถึงห้องสุขาที่ปลอดภัย ทำให้ประชาชนต้องใช้น้ำจากแหล่งที่ไม่สะอาด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้ออหิวาตกโรค นอกจากนี้ การจัดการขยะที่ไม่มีประสิทธิภาพยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการปนเปื้อน
- การเคลื่อนย้ายประชากร: ผู้คนจำนวนมากต้องพลัดถิ่นฐานจากบ้านเรือน หลบหนีภัยสงคราม ไปอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยหรือพื้นที่ที่แออัดขาดแคลนสาธารณูปโภคพื้นฐาน สิ่งเหล่านี้ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคทำได้ยากขึ้นหลายเท่า
- ผลกระทบต่อเด็ก: เด็กๆ เป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุดต่อโรคเหล่านี้ พวกเขามีภูมิคุ้มกันต่ำกว่า และการขาดสารอาหารจากการที่อาหารขาดแคลนยิ่งทำให้ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น UNICEF ชี้ว่าหากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที เด็กๆ อาจเผชิญกับภาวะขาดน้ำรุนแรงจากอหิวาตกโรค หรือการเจ็บป่วยที่รุนแรงจากมาลาเรีย
เสียงเรียกร้องจาก UNICEF:
UNICEF ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาคมโลกให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ประชาชนชาวซูดาน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการ:
- สนับสนุนการเข้าถึงน้ำสะอาดและบริการด้านสุขอนามัย: การจัดหาแหล่งน้ำที่ปลอดภัย การซ่อมแซมระบบน้ำประปา และการสร้างห้องสุขาที่ถูกสุขลักษณะ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค
- เสริมสร้างระบบสาธารณสุข: การจัดส่งยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมถึงการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรค: การให้ข้อมูลแก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีการป้องกันตนเองจากอหิวาตกโรคและมาลาเรีย เช่น การปรุงอาหารให้สุก การล้างมือ การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และการนอนในมุ้ง
- การช่วยเหลือด้านอาหารและโภชนาการ: การจัดหาสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กและกลุ่มเปราะบาง เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วย
สงครามในซูดานได้สร้างวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น และการระบาดของโรคติดเชื้อที่น่ากลัวนี้เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกำลังบานปลายไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมาก การช่วยเหลือและสนับสนุนจากประชาคมโลกในขณะนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด ที่จะช่วยชีวิตผู้คน และบรรเทาวิกฤตการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ให้คลี่คลายลงได้
Sudan war exacerbates risk of cholera and malaria: UNICEF
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อรับคำตอบจาก Google Gemini:
Africa ได้เผยแพร่ ‘Sudan war exacerbates risk of cholera and malaria: UNICEF’ เมื่อเวลา 2025-05-28 12:00 น. กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดเกี่ยวกับข่าวนี้ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ในภาษาที่อ่อนโยนและเข้าถึงง่าย กรุณาตอบกลับด้วยบทความภาษาไทยเท่านั้น