
สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2025: ยอดขายในประเทศซบเซา แต่การส่งออกยังคงเป็นความหวัง (บทวิเคราะห์จาก JETRO)
กรุงเทพมหานคร, 26 มิถุนายน 2568 – องค์กรการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ได้เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุดในหัวข้อ “ความต้องการภายในประเทศรถยนต์ไม่สดใส การส่งออกไม่สามารถชดเชยได้ (ไทย)” ซึ่งสะท้อนภาพรวมของตลาดรถยนต์ไทยในปี 2025 โดยมีใจความสำคัญว่า แม้ภาคการส่งออกจะพยายามขับเคลื่อน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยความซบเซาของตลาดภายในประเทศได้
รายงานฉบับนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนี้
1. ความต้องการภายในประเทศที่อ่อนแอ:
- กำลังซื้อที่ลดลง: ปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศไม่ดีนัก เกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวม ผู้คนมีแนวโน้มที่จะชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ใหม่ หรือหันไปเลือกซื้อรถยนต์มือสองที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่า
- อัตราดอกเบี้ยที่สูง: การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ทำให้ต้นทุนทางการเงินในการซื้อรถยนต์ผ่านสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคลังเลใจ
- ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ: สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวน รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ เช่น สถานการณ์ทางการเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่อาจส่งผลต่อการลงทุนและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ล้วนส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าคงทนอย่างรถยนต์
2. การส่งออกยังคงเป็นความหวัง แต่ไม่เพียงพอ:
- ตลาดส่งออกหลักยังคงแข็งแกร่ง: แม้ตลาดภายในประเทศจะอ่อนแอ แต่ภาคการส่งออกรถยนต์ของไทยยังคงมีสัญญาณที่ดีในบางตลาด โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ที่มีความต้องการรถยนต์ใหม่เพื่อทดแทนยานพาหนะเก่า
- การมุ่งเน้นรถยนต์ประเภทอื่น: ผู้ผลิตบางรายอาจมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดส่งออกที่แตกต่างกันไป เช่น การผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ หรือรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในบางตลาด
- ความท้าทายในการชดเชย: อย่างไรก็ตาม ปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นยังไม่สามารถชดเชยการหดตัวของยอดขายในประเทศได้อย่างเต็มที่ ปัจจัยด้านการแข่งขันในตลาดโลก ต้นทุนการผลิต และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ก็เป็นอีกอุปสรรคที่ผู้ส่งออกต้องเผชิญ
3. แนวโน้มและข้อควรพิจารณาสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย:
- การปรับตัวสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV): รายงานจาก JETRO ย้ำถึงความสำคัญของการปรับตัวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นแนวโน้มทั่วโลก ผู้ผลิตในไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนากลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ EV เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
- การกระตุ้นตลาดภายในประเทศ: ภาครัฐและภาคเอกชนอาจต้องพิจารณามาตรการกระตุ้นตลาดภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การออกมาตรการสนับสนุนทางการเงิน การส่งเสริมการใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับรถยนต์ประเภทใหม่ๆ
- การขยายตลาดส่งออก: การแสวงหาตลาดส่งออกใหม่ๆ และการรักษาฐานลูกค้าในตลาดเดิมด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของตลาดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
- การสนับสนุนห่วงโซ่อุปทาน: การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ของไทย รวมถึงการสนับสนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้สามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดยรวม
สรุป:
รายงานจาก JETRO ชี้ให้เห็นว่า ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2025 กำลังเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายในประเทศที่กดดันกำลังซื้อ การส่งออกเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน แต่ยังไม่สามารถพลิกฟื้นภาพรวมของอุตสาหกรรมได้อย่างเต็มที่ การปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า และการวางกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นตลาดภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการขยายตลาดส่งออกอย่างต่อเนื่อง จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถเติบโตและแข่งขันในเวทีโลกต่อไปได้
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-06-26 15:00 ‘自動車の内需不振を輸出が補えず(タイ)’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย