ความเหงา.. มัจจุราชเงียบที่คุกคามชีวิต: 100 ชีวิตดับทุกชั่วโมงทั่วโลก,Health


ความเหงา.. มัจจุราชเงียบที่คุกคามชีวิต: 100 ชีวิตดับทุกชั่วโมงทั่วโลก

องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า ทุกๆ ชั่วโมง จะมีผู้คนถึง 100 คนทั่วโลกเสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับความเหงา เป็นเครื่องเตือนใจอันแสนเศร้าถึงภัยคุกคามที่มองไม่เห็นนี้ ซึ่งกำลังกัดกินคุณภาพชีวิตและอัตราการเสียชีวิตของผู้คนในทุกช่วงวัย

ข้อมูลจาก WHO ชี้ให้เห็นว่า ความเหงาไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกไม่สบายใจชั่วคราว แต่กลับกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อสุขภาพที่ร้ายแรง เทียบเคียงได้กับการสูบบุหรี่ถึงวันละ 15 มวน หรือการเป็นโรคอ้วน ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสุขภาพและอัตราการเสียชีวิตที่สูงในระดับโลก

ความเหงา หรือภาวะโดดเดี่ยวทางสังคม (Social isolation) ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่อทุกเพศ ทุกวัย ทุกภูมิหลังทางสังคมและเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ต่างก็มีโอกาสเผชิญกับความรู้สึกนี้ได้ทั้งสิ้น

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ความเหงาเป็นอันตรายถึงชีวิต?

เมื่อเราประสบกับความเหงาเป็นเวลานาน ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลเสียต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น:

  • ระบบหัวใจและหลอดเลือด: ความเหงาเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และการเกิดภาวะหัวใจวาย
  • ระบบภูมิคุ้มกัน: ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้ร่างกายติดเชื้อได้ง่าย และเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ
  • ระบบประสาทและสมอง: เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และโรคสมองเสื่อมในระยะยาว
  • สุขภาพจิตโดยรวม: ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้า ความเครียด และอาจนำไปสู่ความคิดฆ่าตัวตายได้

ความเปลี่ยนแปลงในสังคมยุคใหม่.. ตัวเร่งความเหงา?

หลายปัจจัยในสังคมยุคใหม่มีส่วนทำให้ความเหงาทวีความรุนแรงขึ้น เช่น:

  • เทคโนโลยีและการสื่อสารออนไลน์: แม้จะเชื่อมต่อกันได้ง่ายผ่านโซเชียลมีเดีย แต่การสื่อสารที่ขาดปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว อาจทำให้ความรู้สึกเชื่อมโยงที่แท้จริงลดน้อยลง
  • การย้ายถิ่นฐานและชีวิตที่เร่งรีบ: ผู้คนต้องย้ายถิ่นฐานเพื่อการทำงานหรือการศึกษา ทำให้ห่างไกลจากครอบครัวและเพื่อนฝูง การใช้ชีวิตที่เร่งรีบทำให้มีเวลาน้อยลงในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์
  • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครอบครัว: การอยู่คนเดียว หรือการมีครอบครัวขนาดเล็กลง อาจทำให้ขาดการสนับสนุนทางสังคมที่เพียงพอ
  • โรคระบาดและมาตรการเว้นระยะห่าง: เหตุการณ์อย่างการระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้คนต้องแยกตัวออกจากสังคม ส่งผลให้เกิดความโดดเดี่ยวในวงกว้าง

เราจะต่อสู้กับความเหงาได้อย่างไร?

การแก้ไขปัญหาความเหงาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งในระดับบุคคล สังคม และนโยบายสาธารณะ:

  • สำหรับบุคคล:

    • ริเริ่มสร้างความสัมพันธ์: กล้าที่จะพูดคุย ทักทาย หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อพบปะผู้คนใหม่ๆ
    • รักษาความสัมพันธ์ที่มีอยู่: ใช้เวลาคุณภาพกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรัก หมั่นติดต่อพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอ
    • หากิจกรรมที่สนใจ: การเข้าร่วมชมรม หรือกลุ่มที่มีความสนใจเหมือนกัน เป็นโอกาสที่ดีในการสร้างมิตรภาพ
    • ใส่ใจสุขภาพกายและใจ: การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการดูแลสุขภาพจิต เป็นสิ่งสำคัญ
    • ขอความช่วยเหลือ: หากรู้สึกเหงาอย่างหนัก อย่าลังเลที่จะพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว หรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
  • สำหรับสังคมและชุมชน:

    • สร้างพื้นที่สาธารณะที่ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์: สวนสาธารณะ ศูนย์ชุมชน หรือกิจกรรมต่างๆ ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้พบปะกัน
    • ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกกลุ่มวัย: จัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงระหว่างคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า
    • สนับสนุนองค์กรที่ช่วยเหลือผู้ที่โดดเดี่ยว: การบริจาคหรือการเป็นอาสาสมัครให้กับองค์กรที่ทำงานด้านนี้

ข้อมูลจาก WHO ถือเป็นสัญญาณเตือนอันสำคัญที่ทุกคนต้องตระหนักถึงผลกระทบที่ร้ายแรงของความเหงา การหันกลับมาใส่ใจความสัมพันธ์และสร้างสังคมที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน คือหนทางที่จะช่วยลดจำนวน “มัจจุราชเงียบ” ที่กำลังคร่าชีวิตผู้คนไปทุกชั่วโมง ให้เรามาร่วมกันสร้างโลกที่เชื่อมโยงและมีความสุขไปด้วยกัน.


Every hour, 100 people die of loneliness-related causes, UN health agency reports


AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-06-30 12:00 ‘Every hour, 100 people die of loneliness-related causes, UN health agency reports’ ได้รับการเผยแพร่โดย Health กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่อ่อนโยน กรุณาตอบเป็นภาษาไทยโดยมีบทความเท่านั้น

Leave a Comment