
สมาคมห้องสมุดออสเตรเลีย (ALIA) เปิดตัวกรอบแนวคิดฉบับปรับปรุงสำหรับบุคลากรห้องสมุดและสารสนเทศ: ยกระดับทักษะ ความรู้ และจริยธรรมในยุคดิจิทัล
กรุงเทพมหานคร, 9 กรกฎาคม 2567 – สมาคมห้องสมุดออสเตรเลีย (Australian Library and Information Association – ALIA) ได้ประกาศเผยแพร่ฉบับปรับปรุงของ “กรอบแนวคิดสำหรับบุคลากรห้องสมุดและสารสนเทศ: ทักษะ ความรู้ และจริยธรรม” (Competency Framework for Library and Information Professionals: Skills, Knowledge and Ethics) เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 การปรับปรุงครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาพแวดล้อมทางห้องสมุดและสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัลและข้อมูลข่าวสารที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้บุคลากรห้องสมุดและสารสนเทศสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างดียิ่งขึ้น
บทความนี้จะเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับกรอบแนวคิดฉบับปรับปรุงนี้ รวมถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลง และผลกระทบต่อวงการห้องสมุดและสารสนเทศในออสเตรเลียและอาจรวมถึงในระดับสากลด้วย
ความเป็นมาและความสำคัญของการปรับปรุงกรอบแนวคิด
วงการห้องสมุดและสารสนเทศกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายประการ อาทิ:
- การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัล: เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics), และแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ มีอิทธิพลอย่างมากต่อวิธีการเข้าถึง จัดการ และให้บริการข้อมูล
- การเพิ่มขึ้นของข้อมูลข่าวสาร: ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล (Big Data) และความหลากหลายของรูปแบบข้อมูล (สื่อสิ่งพิมพ์, สื่อดิจิทัล, สื่อสังคมออนไลน์) ต้องการทักษะในการประเมิน คัดสรร และนำเสนอข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ
- ความคาดหวังของผู้ใช้บริการที่เปลี่ยนไป: ผู้ใช้บริการคาดหวังการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว สะดวก และปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะบุคคล
- บทบาทที่หลากหลายของห้องสมุด: ห้องสมุดไม่ได้เป็นเพียงแหล่งรวบรวมหนังสือ แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ชุมชน การสร้างสรรค์นวัตกรรม และการส่งเสริมความเป็นพลเมืองดิจิทัล
ด้วยเหตุนี้ กรอบแนวคิดฉบับเดิมที่ใช้มาอาจไม่ครอบคลุมถึงทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรในยุคปัจจุบันอีกต่อไป ALIA จึงได้ดำเนินการปรับปรุงกรอบแนวคิดนี้อย่างรอบด้าน โดยการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ทั้งบุคลากรห้องสมุด ผู้ให้บริการเทคโนโลยี นักวิชาการ และผู้ใช้งาน
สาระสำคัญของกรอบแนวคิดฉบับปรับปรุง
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดของกรอบแนวคิดฉบับปรับปรุงในทันที แต่จากประกาศของ ALIA เราสามารถคาดการณ์ได้ว่ากรอบแนวคิดนี้จะเน้นย้ำและขยายขอบเขตในประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้:
-
ทักษะดิจิทัลและเทคโนโลยี:
- การจัดการข้อมูลดิจิทัลขั้นสูง: ความเข้าใจในโครงสร้างข้อมูล ดัชนี การจัดเก็บ และการรักษาข้อมูลดิจิทัลในระยะยาว
- การใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัล: ความสามารถในการใช้ซอฟต์แวร์ห้องสมุดดิจิทัล เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ และเครื่องมือสื่อสารต่างๆ
- ความเข้าใจในปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning: การตระหนักถึงศักยภาพของ AI ในการปรับปรุงบริการห้องสมุด เช่น การแนะนำทรัพยากร การจัดระเบียบข้อมูล และการตอบคำถามของผู้ใช้
- ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปกป้องข้อมูล: การเข้าใจถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์และความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลขององค์กร
-
ความรู้ด้านการจัดการสารสนเทศ:
- การจัดการวงจรชีวิตของข้อมูล (Data Lifecycle Management): ครอบคลุมตั้งแต่การสร้าง การจัดเก็บ การประมวลผล การใช้ การแบ่งปัน ไปจนถึงการทำลายข้อมูล
- การส่งเสริมการรู้สารสนเทศ (Information Literacy) ในยุคดิจิทัล: การช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหา ประเมิน สังเคราะห์ และใช้ข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณและมีจริยธรรมในสภาพแวดล้อมดิจิทัล
- การจัดการทรัพยากรห้องสมุดหลากหลายรูปแบบ: ทั้งทรัพยากรทางกายภาพ ทรัพยากรดิจิทัล สื่อมัลติมีเดีย และข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์
- การวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้ประโยชน์: ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้บริการเพื่อปรับปรุงการตัดสินใจและพัฒนาบริการให้ตรงกับความต้องการ
-
จริยธรรมและความรับผิดชอบ:
- จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี: การพิจารณาประเด็นด้านความเป็นส่วนตัว การเข้าถึงอย่างเท่าเทียม และอคติที่อาจเกิดขึ้นจากระบบ AI
- การส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม: การลดช่องว่างทางดิจิทัล (Digital Divide) และการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลาย
- การเคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและลิขสิทธิ์: การเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องและการให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้
- การส่งเสริมเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร: การสนับสนุนหลักการสำคัญของวิชาชีพห้องสมุด
ผลกระทบต่อบุคลากรห้องสมุดและสารสนเทศ
การเปิดตัวกรอบแนวคิดฉบับปรับปรุงนี้ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคลากรห้องสมุดและสารสนเทศในหลายด้าน:
- การพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง (Continuing Professional Development – CPD): กรอบแนวคิดนี้จะเป็นแนวทางสำคัญสำหรับบุคลากรในการวางแผนการพัฒนาทักษะและความรู้ใหม่ๆ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
- การออกแบบหลักสูตรการศึกษา: สถาบันการศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรด้านบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ จะต้องนำกรอบแนวคิดนี้ไปปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานปัจจุบัน
- การประเมินสมรรถนะและการจ้างงาน: นายจ้างอาจใช้กรอบแนวคิดนี้เป็นเกณฑ์ในการประเมินสมรรถนะของพนักงานปัจจุบันและการคัดเลือกบุคลากรใหม่
- การสร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ: การมีกรอบแนวคิดที่ชัดเจนและทันสมัยจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของวิชาชีพห้องสมุดและสารสนเทศ
การนำไปใช้และการสนับสนุน
ALIA คาดว่าจะมีการเผยแพร่รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบแนวคิดฉบับปรับปรุง รวมถึงเครื่องมือสนับสนุนต่างๆ เช่น คู่มือการใช้งาน แบบประเมินตนเอง และแหล่งข้อมูลสำหรับการพัฒนาวิชาชีพ การนำกรอบแนวคิดนี้ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งบุคลากรห้องสมุดเอง สถาบันการศึกษา นายจ้าง และองค์กรวิชาชีพ
สรุป
การปรับปรุงกรอบแนวคิดสำหรับบุคลากรห้องสมุดและสารสนเทศโดย ALIA เป็นก้าวที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลและการไหลบ่าของข้อมูลข่าวสารเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของห้องสมุดอย่างมหาศาล การเน้นย้ำทักษะดิจิทัล ความรู้ด้านการจัดการสารสนเทศที่ทันสมัย และจริยธรรมที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้บุคลากรห้องสมุดและสารสนเทศสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง และยังคงเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อสังคมในยุคดิจิทัลต่อไป
オーストラリア図書館協会(ALIA)、図書館・情報サービス従事者のためのスキル・知識・倫理に関するフレームワークの改訂版を公表
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-07-09 08:09 ‘オーストラリア図書館協会(ALIA)、図書館・情報サービス従事者のためのスキル・知識・倫理に関するフレームワークの改訂版を公表’ ได้รับการเผยแพร่ตาม カレントアウェアネス・ポータル กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย