
นโยบายการเงินอิสราเอล: คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง 12 สมัยซ้อน คาดการณ์การเติบโตปี 2025 ลดลง
โตเกียว, 10 กรกฎาคม 2567 – ธนาคารกลางอิสราเอล (Bank of Israel) ได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม เป็นครั้งที่ 12 ติดต่อกัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่ โดยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสำหรับปี 2025 จะลดลงเหลือเพียง 3.3% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้สูงกว่านี้
ภาพรวมสถานการณ์:
การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอิสราเอลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคต
- การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมเป็นเวลา 12 สมัยติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังของธนาคารกลางอิสราเอลในการดำเนินนโยบายการเงิน โดยอาจเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับที่ไม่ต้องการ หรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคอื่นๆ การคงอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน ซึ่งอาจกระทบต่อการลงทุนและการบริโภค
- การปรับลดคาดการณ์การเติบโตปี 2025: การปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลสำหรับปี 2025 เป็น 3.3% ชี้ให้เห็นถึงความคาดหวังของธนาคารกลางที่ว่าเศรษฐกิจอาจเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น หรือการฟื้นตัวอาจไม่แข็งแกร่งเท่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการปรับลดนี้ ได้แก่:
- ความไม่สงบทางการเมืองและภูมิภาค: สถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความไม่แน่นอนและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคธุรกิจ
- ผลกระทบจากสงคราม: แม้อิสราเอลจะมีภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ผลกระทบทางอ้อมจากสงคราม โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว การลงทุน และห่วงโซ่อุปทาน อาจยังคงส่งผลต่อการเติบโต
- อัตราเงินเฟ้อ: แม้ธนาคารกลางจะพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แต่หากเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น อาจส่งผลให้กำลังซื้อลดลง และกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชน
- นโยบายการคลัง: การใช้นโยบายการคลังของรัฐบาล เช่น การใช้จ่ายเพื่อการป้องกันประเทศ หรือการสนับสนุนภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ อาจมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:
การคงอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดคาดการณ์การเติบโตนี้ อาจส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจอิสราเอล ดังนี้:
- ภาคธุรกิจ: ต้นทุนทางการเงินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อาจทำให้ภาคธุรกิจชะลอการลงทุน หรือระมัดระวังในการขยายกิจการ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากภายนอก
- ภาคครัวเรือน: หากอัตราดอกเบี้ยถูกคงไว้ในระดับสูงเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อภาระหนี้สินของภาคครัวเรือน และอาจกดดันการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค
- ตลาดการเงิน: การตัดสินใจของธนาคารกลางอาจส่งผลต่อตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรของอิสราเอล นักลงทุนอาจต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงและความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น
- การลงทุนจากต่างชาติ: ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง อาจส่งผลกระทบต่อความน่าสนใจในการลงทุนจากต่างชาติ
แนวโน้มในอนาคต:
ธนาคารกลางอิสราเอลจะยังคงจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจและปัจจัยต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต การตัดสินใจในการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับพัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเมืองในภูมิภาคเป็นสำคัญ
ข้อมูลนี้เผยแพร่โดย องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของเศรษฐกิจอิสราเอลในเวทีโลก และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อภูมิภาคและเศรษฐกิจระหว่างประเทศโดยรวม
イスラエル中銀、政策金利を12会合連続で据え置き、2025年成長率は3.3%に下方修正
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-07-10 05:55 ‘イスラエル中銀、政策金利を12会合連続で据え置き、2025年成長率は3.3%に下方修正’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย