
สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าสิงคโปร์ กระทบเศรษฐกิจชะลอตัวปลายปี 2025
โตเกียว, 14 กรกฎาคม 2025 – องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) เผยแพร่รายงานที่คาดการณ์ว่า มาตรการขึ้นภาษีสินค้าของสหรัฐอเมริกาต่อประเทศสิงคโปร์ จะส่งผลให้เศรษฐกิจของสิงคโปร์ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 เป็นต้นไป รายงานดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า “米関税措置のシンガポール経済への影響、2025年下半期以降に減速の見通し” (ผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์ คาดการณ์ชะลอตัวตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2025) ชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของสิงคโปร์ในฐานะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้ากับสหรัฐอเมริกา
สาเหตุของผลกระทบ:
- การพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ: สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีธุรกรรมการค้าและบริการกับสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมาก สินค้าส่งออกหลายประเภทของสิงคโปร์ ทั้งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การแพทย์ และผลิตภัณฑ์เคมี ล้วนเป็นที่ต้องการในตลาดสหรัฐฯ เมื่อสหรัฐฯ ขึ้นภาษี สินค้าเหล่านี้จะแพงขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง และความต้องการจากผู้บริโภคสหรัฐฯ อาจลดน้อยลงตามไปด้วย
- การตอบโต้ทางการค้า: แม้รายงานของ JETRO จะไม่ได้ลงรายละเอียดถึงลักษณะเฉพาะของสินค้าที่ถูกขึ้นภาษี แต่โดยทั่วไปแล้ว มาตรการภาษีมักเป็นการตอบโต้ทางการค้า หรือเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของสหรัฐฯ การขึ้นภาษีต่อสิงคโปร์ อาจสะท้อนถึงความกังวลของสหรัฐฯ ในประเด็นเหล่านี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้จากสิงคโปร์ หรือประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดความซับซ้อนในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
- ผลกระทบต่อภาคการผลิตและบริการ: การส่งออกที่ลดลงย่อมส่งผลโดยตรงต่อภาคการผลิตของสิงคโปร์ โรงงานต่างๆ อาจต้องลดกำลังการผลิต หรือชะลอการลงทุนใหม่ ขณะเดียวกัน ภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ เช่น การขนส่ง โลจิสติกส์ และบริการทางการเงิน ก็อาจได้รับผลกระทบจากการปริมาณการค้าระหว่างประเทศที่ลดลงเช่นกัน
- ความเชื่อมั่นของนักลงทุน: ข่าวสารเกี่ยวกับการขึ้นภาษีและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ การชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อาจทำให้การลงทุนใหม่ๆ ลดน้อยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
แนวโน้มในอนาคต:
รายงานของ JETRO คาดการณ์ว่า ผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จะเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 และมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง การปรับตัวของเศรษฐกิจสิงคโปร์จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่:
- การปรับกลยุทธ์การส่งออก: สิงคโปร์อาจต้องเร่งหาตลาดส่งออกใหม่ๆ หรือขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ
- การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ: รัฐบาลสิงคโปร์อาจต้องพิจารณามาตรการเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ และส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตภายในประเทศ
- สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศโดยรวม: ความขัดแย้งทางการค้าและมาตรการขึ้นภาษีระหว่างประเทศมหาอำนาจ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม ซึ่งสิงคโปร์ในฐานะประเทศเปิด จะหลีกเลี่ยงผลกระทบนี้ได้ยาก
รายงานของ JETRO ถือเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญสำหรับภาคธุรกิจและรัฐบาลของสิงคโปร์ในการเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่กำลังจะมาถึง และหาแนวทางในการรักษาเสถียรภาพและความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในระยะยาว.
米関税措置のシンガポール経済への影響、2025年下半期以降に減速の見通し
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-07-14 15:00 ‘米関税措置のシンガポール経済への影響、2025年下半期以降に減速の見通し’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย