เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็น “ประเทศ” เล็กๆ ของเรา: SAP ชวนเด็กๆ มาคิดเรื่อง “อำนาจอธิปไตยดิจิทัล”,SAP


เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็น “ประเทศ” เล็กๆ ของเรา: SAP ชวนเด็กๆ มาคิดเรื่อง “อำนาจอธิปไตยดิจิทัล”

สวัสดีค่ะน้องๆ นักวิทยาศาสตร์น้อยทุกคน! วันนี้พี่มีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ฟังค่ะ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัท SAP ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ด้านเทคโนโลยี เขาได้ออกมาพูดคุยกันถึงเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ชื่อว่า “SAP Leaders Redefine the Digital Sovereignty Debate” ฟังดูยากใช่ไหมคะ? ไม่ต้องห่วงเลย วันนี้พี่จะอธิบายให้ฟังแบบง่ายๆ เหมือนเราเล่นเกมกันเลย!

“อำนาจอธิปไตยดิจิทัล” คืออะไร? เหมือนกับประเทศของเราไหม?

ลองนึกภาพแบบนี้ค่ะ ปกติเราอยู่กันในประเทศของเราใช่ไหมคะ เรามีธงชาติของเรา มีกฎหมายของเรา มีคนของเรา แล้วเราก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในประเทศของเราเอง ไม่ให้ใครมาสั่งมาบังคับได้ นั่นแหละค่ะคือ “อำนาจอธิปไตย”

ทีนี้ พอเรามีโลกออนไลน์ โลกอินเทอร์เน็ต โลกของข้อมูลต่างๆ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน มันก็เหมือนกับว่าเรากำลังสร้าง “ประเทศ” เล็กๆ ของตัวเองขึ้นมาในโลกดิจิทัลนี้ค่ะ

  • ข้อมูลของเรา: ลองคิดดูว่าเวลาเราเล่นเกม เล่นโซเชียล หรือแม้แต่ส่งข้อความให้เพื่อน ข้อมูลเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน? มันเหมือนกับทรัพย์สมบัติ หรือทรัพยากรของ “ประเทศดิจิทัล” ของเราเลยนะ
  • ใครเป็นเจ้าของ? แล้วใครมีสิทธิ์จะควบคุม หรือตัดสินใจเกี่ยวกับข้อมูลของเราได้บ้าง? นี่คือหัวใจสำคัญของ “อำนาจอธิปไตยดิจิทัล” ค่ะ
  • เหมือนกับประเทศจริงๆ ไหม? ก็คล้ายๆ ค่ะ คือเราอยากจะให้ข้อมูลของเรา ปลอดภัย ไม่ถูกใครเอาไปใช้ในทางที่ผิด แล้วก็อยากให้คนในประเทศดิจิทัลของเรา (ก็คือตัวเราเอง) มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะให้ข้อมูลของเราไปไหน หรือใครจะเอาไปใช้ได้บ้าง

SAP เขาคิดยังไงกับเรื่องนี้?

เหล่าผู้นำของ SAP เขามาคุยกันว่า “อำนาจอธิปไตยดิจิทัล” นี้มันสำคัญมากๆ และมันก็กำลังจะเปลี่ยนวิธีการที่เราใช้เทคโนโลยีไปเลยค่ะ

  1. เราต้องควบคุมข้อมูลของเราเอง: เหมือนกับเราต้องดูแลประเทศของเราเอง เราก็ต้องมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าข้อมูลของเราอยู่ที่ไหน ใครกำลังใช้มันอยู่ แล้วเราก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกว่าจะให้ใครใช้ หรือจะลบมันทิ้งเมื่อไหร่

  2. มันไม่ใช่แค่เรื่องของประเทศใหญ่ๆ: หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้มีแต่ประเทศใหญ่ๆ ที่ต้องคิด แต่จริงๆ แล้ว มันเกี่ยวกับเราทุกคนเลยค่ะ แม้แต่ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ของเรา ก็มีความสำคัญ

  3. เทคโนโลยีที่ช่วยให้เราปลอดภัย: SAP กำลังพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยให้ข้อมูลของเราปลอดภัยมากขึ้น เหมือนกับมีทหารคอยปกป้องประเทศของเรานั่นแหละค่ะ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้เราควบคุมข้อมูลของเราได้จริงๆ

  4. ความร่วมมือสำคัญที่สุด: การที่จะสร้าง “ประเทศดิจิทัล” ที่ปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อทุกคนได้ เราต้องช่วยกันค่ะ ทั้งบริษัทเทคโนโลยีอย่าง SAP รัฐบาล แล้วก็ตัวเราทุกคนต้องร่วมมือกัน

ทำไมเรื่องนี้ถึงน่าสนใจสำหรับเด็กๆ อย่างเรา?

เพราะโลกในอนาคตจะเป็นโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีค่ะ การที่เราเข้าใจเรื่อง “อำนาจอธิปไตยดิจิทัล” ตั้งแต่ตอนนี้ จะช่วยให้เรา:

  • เป็นพลเมืองดิจิทัลที่ดี: เรารู้ว่าข้อมูลของเราสำคัญ และเราต้องดูแลรักษาอย่างดี
  • เป็นนักประดิษฐ์ที่เก่งขึ้น: เมื่อเรารู้ว่าเทคโนโลยีมีผลต่อชีวิตเรา เราก็จะอยากสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน
  • เข้าใจโลกที่ซับซ้อนขึ้น: โลกของเราไม่ได้มีแค่สิ่งที่จับต้องได้ แต่ยังมีโลกดิจิทัลที่สำคัญไม่แพ้กัน
  • มีส่วนร่วมในการสร้างอนาคต: เราจะได้รู้ว่าเรามีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับโลกดิจิทัลที่เราใช้อยู่

ลองคิดตามพี่นะคะ:

  • เวลาเราเล่นเกม ใครเป็นคนสร้างเกมนั้น?
  • เวลาเราโพสต์รูป ภาพนั้นไปอยู่ที่ไหน?
  • ถ้ามีคนแฮกข้อมูลของเรา จะเกิดอะไรขึ้น?

คำถามเหล่านี้ จะช่วยให้เราเริ่มคิดถึง “อำนาจอธิปไตยดิจิทัล” ได้ค่ะ

SAP เขาอยากให้คนรุ่นใหม่ อย่างพวกเราๆ มีความเข้าใจเรื่องนี้ และอยากให้เราเห็นว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย แต่เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา และเป็นสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้และใช้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ได้

ดังนั้น ครั้งต่อไปที่เราใช้อินเทอร์เน็ต หรือเล่นเกม ลองนึกถึง “ประเทศดิจิทัล” ของเราดูนะคะ แล้วคิดว่าเราจะดูแลรักษา “ทรัพยากร” ที่สำคัญที่สุดของเรา นั่นก็คือ “ข้อมูล” ของเราได้อย่างไรบ้าง!

มาร่วมกันเป็นนักวิทยาศาสตร์น้อยที่เข้าใจโลกดิจิทัลไปด้วยกันนะคะ!


SAP Leaders Redefine the Digital Sovereignty Debate


ปัญญาประดิษฐ์ได้ส่งข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อรับคำตอบจาก Google Gemini:

เมื่อเวลา 2025-07-30 12:15 SAP ได้เผยแพร่ ‘SAP Leaders Redefine the Digital Sovereignty Debate’ กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายสำหรับเด็กและนักเรียน เพื่อส่งเสริมให้เด็กจำนวนมากขึ้นสนใจในวิทยาศาสตร์ กรุณาให้เฉพาะบทความเป็นภาษาไทยเท่านั้น

Leave a Comment