
อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือนมิถุนายน 2567 ชะลอตัวลงสู่ 1.87% แตะกรอบเป้าหมายของธนาคารกลาง
ข่าวจาก JETRO – 3 กรกฎาคม 2567
ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งประเทศญี่ปุ่น เผยให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index – CPI) ในเดือนมิถุนายน 2567 มีอัตราการปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan – BOJ) ตั้งไว้ที่ประมาณ 2%
ภาพรวมของสถานการณ์:
การที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายนี้ เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจญี่ปุ่น แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นจากการอ่อนค่าของเงินเยนและการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ:
- ราคาสินค้าและบริการบางประเภทที่ปรับตัวสูงขึ้น: แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมจะชะลอตัว แต่ก็ยังมีบางหมวดหมู่ที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น เช่น ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นอาหารทะเลและผลไม้) และค่าที่พัก
- การปรับขึ้นค่าสาธารณูปโภค: ค่าไฟฟ้าและแก๊สยังคงเป็นแรงกดดันหลักต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาพลังงานในตลาดโลก
- ปัจจัยจากภายนอก: การอ่อนค่าของเงินเยนยังคงส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้ามีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อ
- การใช้จ่ายของผู้บริโภค: แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะยังคงมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ก็ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าการปรับขึ้นของราคาสินค้าและบริการจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในระยะยาวหรือไม่
ผลกระทบต่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ):
การที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายที่ BOJ ตั้งไว้ ทำให้ BOJ มีความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายการเงินมากขึ้น โดยยังคงต้องประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบเพื่อพิจารณาจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือการยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินแบบพิเศษ (Quantitative and Qualitative Monetary Easing – QQE) ที่ใช้มานาน
ความสำคัญของข้อมูลนี้:
- สำหรับนักลงทุนและภาคธุรกิจ: ข้อมูลนี้ช่วยให้นักลงทุนและภาคธุรกิจสามารถประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นและวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
- สำหรับผู้บริโภค: ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงสถานการณ์ค่าครองชีพและสามารถวางแผนการใช้จ่ายของตนเองได้
- สำหรับการดำเนินนโยบาย: เป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ประกอบการตัดสินใจของหน่วยงานภาครัฐและธนาคารกลางในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ
สิ่งที่เราต้องจับตามองต่อไป:
- แนวโน้มของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก
- การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยน
- ผลกระทบของการปรับขึ้นค่าสาธารณูปโภคต่อค่าครองชีพ
- การตอบสนองของผู้บริโภคต่อภาวะเงินเฟ้อ
- ท่าทีและนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นในการประชุมครั้งต่อไป
โดยสรุปแล้ว อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1.87% ในเดือนมิถุนายน 2567 ถือเป็นสัญญาณที่น่าพอใจ ซึ่งสะท้อนถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง แต่ยังคงมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินแนวโน้มในระยะต่อไป
6月の消費者物価指数上昇率は前年同月比1.87%、中銀目標圏内で推移
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-07-03 04:55 ‘6月の消費者物価指数上昇率は前年同月比1.87%、中銀目標圏内で推移’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย