
ทิศทางนโยบายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ: จากการเจรจาภาษี สู่การควบคุมการส่งออก
บทความจากJETRO ฉบับวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 พาดหัวว่า “関税交渉の先にある、米国の輸出管理を中心とした経済安保政策の行方” (ทิศทางนโยบายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ: จากการเจรจาภาษี สู่การควบคุมการส่งออก) ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องภาษีอีกต่อไป แต่ขยายวงกว้างไปยัง นโยบายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ (Economic Security Policy) โดยมี การควบคุมการส่งออก (Export Controls) เป็นเครื่องมือหลัก
บทความนี้จะเจาะลึกถึงประเด็นสำคัญที่น่าสนใจจากบทความของ JETRO และนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อให้เราเห็นภาพรวมของแนวโน้มนี้
ทำไมสหรัฐฯ ถึงหันมาให้ความสำคัญกับ “ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ”?
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจมีหลายประการ ดังนี้:
- การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Competition): ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะจีน เป็นแรงผลักดันหลัก สหรัฐฯ กังวลว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศคู่แข่ง อาจนำไปสู่การบ่อนทำลายความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์และความมั่นคงของตนเอง
- การพึ่งพาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Dependencies): การระบาดของ COVID-19 และเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ได้เผยให้เห็นถึงความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก สหรัฐฯ ต้องการลดการพึ่งพาประเทศอื่น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ วัคซีน และแร่ธาตุหายาก
- เทคโนโลยีที่เป็นภัยคุกคาม (Technology as a Threat): เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควอนตัมคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีชีวภาพ มีศักยภาพที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติได้ สหรัฐฯ จึงต้องการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ของคู่แข่ง
- การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา (Protection of Intellectual Property): การโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสม ยังคงเป็นข้อกังวลสำคัญสำหรับสหรัฐฯ
การควบคุมการส่งออก: เครื่องมือสำคัญของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
บทความของ JETRO เน้นย้ำว่า การควบคุมการส่งออก กลายเป็นเครื่องมือหลักที่สหรัฐฯ ใช้ในการดำเนินนโยบายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายคือ:
- ป้องกันการเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญ: สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องไปยังประเทศที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงทางทหารและเศรษฐกิจ
- ชะลอการพัฒนาเทคโนโลยีของคู่แข่ง: การจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการผลิตสินค้าบางประเภท อาจส่งผลให้คู่แข่งไม่สามารถพัฒนาหรือผลิตเทคโนโลยีเหล่านั้นได้รวดเร็วเท่าที่ควร
- สร้างความได้เปรียบทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี: การรักษาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมไว้ภายในประเทศ เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ
ตัวอย่างการควบคุมการส่งออกที่กำลังเป็นที่จับตา
- ภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์: นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด สหรัฐฯ ได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดต่อจีน โดยจำกัดการขายเครื่องจักร อุปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตชิปขั้นสูง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน และกำลังผลักดันให้จีนต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปของตนเอง
- เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI และปัญญาประดิษฐ์: การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี AI กำลังเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก AI มีศักยภาพในการนำไปใช้ได้หลากหลาย ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการพัฒนาระบบอาวุธ
- สินค้าและเทคโนโลยีที่ใช้ในสองวัตถุประสงค์ (Dual-use items): สินค้าและเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้ทั้งในทางพลเรือนและทางทหาร สหรัฐฯ กำลังเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและควบคุมการส่งออกสินค้าประเภทนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดี
ผลกระทบต่อประเทศไทยและประเทศอื่นๆ
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการควบคุมการส่งออก ย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน:
- ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน: บริษัทไทยที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีหรือชิ้นส่วนจากสหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการนำเข้า หรือต้องหาแหล่งวัตถุดิบ/เทคโนโลยีทดแทน
- โอกาสและความท้าทาย: ในขณะที่บางอุตสาหกรรมอาจเผชิญความท้าทาย แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็อาจมีโอกาสสำหรับบริษัทไทยในการเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นจากการจำกัดการค้าของประเทศมหาอำนาจ
- การปรับตัว: ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ โดยการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง การกระจายแหล่งวัตถุดิบและการผลิต และการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรที่เชื่อถือได้
บทสรุป: เศรษฐกิจและความมั่นคง intertwined
บทความจาก JETRO ได้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่ เศรษฐกิจและความมั่นคง กำลังจะยิ่งมีความเกี่ยวพันกันอย่างแนบแน่นขึ้น สหรัฐฯ กำลังใช้เครื่องมือทางการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะ การควบคุมการส่งออก เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจของตนเอง ประเทศไทยและประชาคมโลกจึงต้องจับตาดูทิศทางนโยบายนี้อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต.
関税交渉の先にある、米国の輸出管理を中心とした経済安保政策の行方
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-07-04 07:00 ‘関税交渉の先にある、米国の輸出管理を中心とした経済安保政策の行方’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย