ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้า 8 ประเทศ รวมถึงบราซิล 50% – เจาะลึกผลกระทบและท่าทีโลก,日本貿易振興機構


ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้า 8 ประเทศ รวมถึงบราซิล 50% – เจาะลึกผลกระทบและท่าทีโลก

โตเกียว, 10 กรกฎาคม 2565 – สถาบันส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) รายงานข่าวสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก 8 ประเทศทั่วโลก โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ และกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ การตัดสินใจครั้งนี้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าที่ชัดเจนของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น

รายละเอียดการขึ้นภาษีและประเทศเป้าหมาย:

รายงานของ JETRO ระบุว่า ภาษีใหม่นี้จะถูกนำมาใช้กับสินค้าที่นำเข้าจาก 8 ประเทศ ซึ่งการปรับขึ้นภาษีนั้นมีอัตราที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือ ประเทศบราซิล ซึ่งจะต้องเผชิญกับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า สูงถึง 50% การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินนโยบาย “America First” ของทรัมป์ ที่มุ่งเน้นการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าของสหรัฐฯ เป็นหลัก

แม้รายงานของ JETRO จะไม่ได้ระบุรายชื่ออีก 7 ประเทศที่ถูกปรับขึ้นภาษีอย่างชัดเจน แต่โดยทั่วไปแล้ว นโยบายการค้าของรัฐบาลทรัมป์มักจะมุ่งเป้าไปที่ประเทศที่มีการขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ ในระดับสูง หรือประเทศที่สหรัฐฯ มองว่ามีการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม เช่น การจำกัดการเข้าถึงตลาด หรือการอุดหนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศอย่างไม่สมเหตุสมผล

แรงจูงใจเบื้องหลังการตัดสินใจของทรัมป์:

แรงจูงใจหลักที่ประธานาธิบดีทรัมป์ผลักดันการขึ้นภาษีสินค้านำเข้ามาจากหลายปัจจัย ดังนี้:

  • การลดการขาดดุลการค้า: สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้ากับหลายประเทศมายาวนาน ทรัมป์มองว่าการขึ้นภาษีเป็นเครื่องมือในการลดปริมาณการนำเข้าและเพิ่มการส่งออก เพื่อปรับสมดุลทางการค้า
  • การปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ: การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจะทำให้สินค้าเหล่านั้นมีราคาสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสินค้าที่ผลิตภายในสหรัฐฯ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมและแรงงานในประเทศได้รับประโยชน์
  • การเจรจาต่อรองทางการค้า: ทรัมป์มักใช้การขึ้นภาษีเป็นเครื่องมือในการกดดันประเทศคู่ค้าให้ยอมรับเงื่อนไขทางการค้าที่สหรัฐฯ ต้องการในการเจรจาข้อตกลงทางการค้าใหม่ๆ
  • การตอบโต้การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม: สหรัฐฯ อาจมองว่าบางประเทศมีการกีดกันทางการค้า หรือมีการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกับผู้ผลิตสหรัฐฯ จึงใช้มาตรการขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:

การตัดสินใจของทรัมป์ครั้งนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างขวาง ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก:

  • ต่อประเทศเป้าหมาย:
    • การส่งออกลดลง: ประเทศที่ถูกขึ้นภาษีจะประสบปัญหาการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ลดลง เนื่องจากสินค้าจะมีราคาสูงขึ้นและสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน
    • ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ: หากการส่งออกเป็นสัดส่วนสำคัญของเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ การลดลงของการส่งออกอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และรายได้ของประเทศ
    • การหาตลาดใหม่: ประเทศเป้าหมายอาจต้องเร่งหาตลาดส่งออกใหม่ๆ เพื่อชดเชยส่วนแบ่งตลาดที่เสียไปในสหรัฐฯ
  • ต่อสหรัฐอเมริกา:
    • ราคาผู้บริโภคสูงขึ้น: สินค้านำเข้าที่มีราคาสูงขึ้นอาจส่งผลให้ราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคในสหรัฐฯ สูงขึ้นตามไปด้วย
    • ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น: ภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพาส่วนประกอบหรือวัตถุดิบจากต่างประเทศ อาจต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น
    • การตอบโต้จากประเทศคู่ค้า: ประเทศที่ถูกขึ้นภาษีอาจตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจส่งออกของสหรัฐฯ
    • ความผันผวนของตลาดการเงิน: การเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าที่กะทันหันอาจส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกมีความผันผวนมากขึ้น
  • ต่อเศรษฐกิจโลก:
    • การชะลอตัวของการค้าโลก: หากมาตรการขึ้นภาษีขยายวงกว้าง อาจนำไปสู่การชะลอตัวของการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
    • ความไม่แน่นอนของระบบการค้าระหว่างประเทศ: นโยบายที่เน้นการใช้มาตรการทางเดียวอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในระบบการค้าระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนหลักการของความร่วมมือและข้อตกลงร่วมกัน

ท่าทีของประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศ:

คาดว่าประเทศที่ได้รับผลกระทบจะแสดงความกังวลและอาจพิจารณาหามาตรการตอบโต้ที่เหมาะสม องค์กรการค้าระหว่างประเทศ เช่น องค์การการค้าโลก (WTO) อาจมีบทบาทในการไกล่เกลี่ยหรือตรวจสอบว่ามาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ทางการค้าโลกหรือไม่

กรณีของบราซิลที่ต้องเผชิญกับภาษี 50% ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ พร้อมใช้มาตรการที่เข้มข้นในการบรรลุเป้าหมายทางการค้าของตน ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การค้าโลกภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์


トランプ米大統領、8カ国への相互関税の新税率通告、ブラジルに50%など


AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-07-10 02:25 ‘トランプ米大統領、8カ国への相互関税の新税率通告、ブラジルに50%など’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย

Leave a Comment