
สรุปข่าว: นิวยอร์กซิตี้ ชูผลงานครึ่งปีหลังการเก็บค่าผ่านทางใจกลางแมนฮัตตัน – อะไรคือสิ่งที่น่าสนใจ?
ที่มา: JETRO (องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น) วันที่เผยแพร่: 10 กรกฎาคม 2025 เวลา 00:40 น. หัวข้อ: ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ชี้แจงผลงานครึ่งปีหลังการนำระบบเก็บค่าผ่านทางเข้าสู่ใจกลางแมนฮัตตัน
ข่าวจาก JETRO นำเสนอความสำเร็จของโครงการเก็บค่าผ่านทาง (Congestion Pricing) ในเขตใจกลางแมนฮัตตัน นิวยอร์กซิตี้ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาครึ่งปีแล้ว โดยผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กได้ออกมาเน้นย้ำถึงผลลัพธ์เชิงบวกที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นความพยายามในการจัดการปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างรุนแรง และการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนในเมือง
ทำความเข้าใจกับระบบเก็บค่าผ่านทาง (Congestion Pricing) ในนิวยอร์กซิตี้:
โครงการนี้มีชื่อเรียกว่า “Central Business District Tolling Program” หรือ “One NYC: Moving Forward” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ:
- ลดปริมาณรถยนต์ที่เข้าสู่ใจกลางแมนฮัตตัน: โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อบรรเทาปัญหาการติดขัด
- ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ: เมื่อการขับรถส่วนตัวมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ประชาชนจะหันไปใช้รถไฟใต้ดิน, รถบัส และระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ มากขึ้น
- สร้างรายได้: เพื่อนำไปลงทุนในการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งสาธารณะ
- ปรับปรุงคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม: การลดปริมาณรถยนต์จะช่วยลดมลพิษทางอากาศและเสียง
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ:
ระบบนี้ครอบคลุมพื้นที่ “เขตธุรกิจกลาง” (Central Business District – CBD) ของแมนฮัตตัน ซึ่งโดยทั่วไปจะหมายถึงพื้นที่ตั้งแต่ ถนน 60 ทางตอนใต้ ลงไปจนถึง ถนน 1 ทางตอนเหนือ และครอบคลุมพื้นที่ระหว่าง แม่น้ำฮัดสันทางตะวันตก ไปจนถึง แม่น้ำอีสต์ทางตะวันออก
ประเภทของยานพาหนะที่ต้องเสียค่าผ่านทาง:
รถยนต์ส่วนบุคคล, รถบรรทุก, รถตู้ และรถจักรยานยนต์ ที่วิ่งเข้าไปในเขต CBD จะต้องเสียค่าผ่านทาง โดยอัตราค่าผ่านทางจะแตกต่างกันไปตามประเภทของยานพาหนะ และอาจมีการปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลา (เช่น ชั่วโมงเร่งด่วน)
ผลการดำเนินงานครึ่งปีที่ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กเน้นย้ำ (ข้อมูลจากข่าว JETRO):
แม้ในข่าวจะไม่ได้ลงรายละเอียดของตัวเลขสถิติที่ชัดเจน แต่การที่ผู้ว่าการรัฐออกมา “เน้นย้ำถึงผลงาน” แสดงให้เห็นถึงสัญญาณเชิงบวก ซึ่งอาจรวมถึง:
- การลดลงของปริมาณรถยนต์ที่เข้าสู่เขต CBD: ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จที่สำคัญที่สุด
- การเพิ่มขึ้นของการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ: จำนวนผู้โดยสารรถไฟใต้ดินและรถบัสในเส้นทางที่เกี่ยวข้องอาจเพิ่มสูงขึ้น
- การลดลงของความล่าช้าของการจราจร: การจราจรอาจคล่องตัวมากขึ้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
- การสร้างรายได้ตามเป้าหมาย: ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่อไป
ประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง:
- การต่อต้านและข้อกังวล: แม้จะมีผลลัพธ์เชิงบวก แต่โครงการนี้ก็เผชิญกับการต่อต้านและความกังวลจากหลายภาคส่วน เช่น กลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล, กลุ่มธุรกิจที่ต้องขนส่งสินค้า และผู้มีรายได้น้อย ที่อาจได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
- การยกเว้นและส่วนลด: ระบบอาจมีการยกเว้นหรือส่วนลดสำหรับบางกลุ่ม เช่น ผู้พิการ, รถฉุกเฉิน หรือรถยนต์ไฟฟ้าบางประเภท เพื่อลดผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง
- การนำรายได้ไปใช้: การนำรายได้จากการเก็บค่าผ่านทางไปลงทุนในการปรับปรุงระบบรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่และทรุดโทรม, การเพิ่มเส้นทางรถเมล์ และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จในระยะยาว
- ผลกระทบต่อธุรกิจ: ธุรกิจในเขต CBD อาจได้รับผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ การจราจรที่คล่องตัวขึ้นอาจช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้า ในขณะที่ต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อราคา
- เปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ: นิวยอร์กซิตี้ไม่ใช่เมืองแรกที่นำระบบ Congestion Pricing มาใช้ เมืองใหญ่อื่นๆ เช่น ลอนดอน, สตอกโฮล์ม, และสิงคโปร์ ก็มีระบบที่คล้ายคลึงกันและได้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ในการจัดการปัญหาการจราจรและสิ่งแวดล้อม
สรุป:
ข่าวจาก JETRO ชี้ให้เห็นว่า โครงการเก็บค่าผ่านทางในใจกลางแมนฮัตตันของนิวยอร์กซิตี้ กำลังแสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจในครึ่งปีแรกของการดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการลดปริมาณรถยนต์และส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ การรับฟังเสียงจากทุกภาคส่วน และการนำรายได้ไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเมืองและผู้คนอย่างยั่งยืน.
米ニューヨーク州知事、マンハッタン中心部の通行料導入から半年の成果強調
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-07-10 00:40 ‘米ニューヨーク州知事、マンハッタン中心部の通行料導入から半年の成果強調’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย