ชำแหละข่าว JETRO: Ultium Cells ทุ่มงบปรับปรุงโรงงานแบตเตอรี่ EV ในเทนเนสซี ขยายการผลิตแบตเตอรี่ LFP สู่ตลาด,日本貿易振興機構


ชำแหละข่าว JETRO: Ultium Cells ทุ่มงบปรับปรุงโรงงานแบตเตอรี่ EV ในเทนเนสซี ขยายการผลิตแบตเตอรี่ LFP สู่ตลาด

ญี่ปุ่น, 15 กรกฎาคม 2565 – องค์กรส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) รายงานข่าวสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ระบุว่า Ultium Cells LLC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง General Motors (GM) และ LG Energy Solution (LGES) กำลังเดินหน้าปรับปรุงโรงงานผลิตแบตเตอรี่ EV ที่ตั้งอยู่ในรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายหลักคือการขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่ประเภท ลิเทียม-เหล็กฟอสเฟต (Lithium Iron Phosphate: LFP) เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น

ข่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางที่ชัดเจนของ GM และ LGES ในการปรับกลยุทธ์ด้านแบตเตอรี่ให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์ผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการหันมาให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่ LFP ซึ่งมีข้อได้เปรียบหลายประการเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ลิเทียม-นิกเกิล-โคบอลต์-แมงกานีสออกไซด์ (Lithium-Nickel-Cobalt-Manganese Oxide: NMC) ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน

ทำไมต้อง LFP? เจาะลึกข้อได้เปรียบของแบตเตอรี่ LFP

แบตเตอรี่ LFP ได้รับความสนใจอย่างมากในอุตสาหกรรม EV ด้วยเหตุผลสำคัญดังนี้:

  • ต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า: วัตถุดิบหลักอย่างเหล็ก (Iron) นั้นหาได้ง่ายกว่าและมีราคาถูกกว่านิกเกิลและโคบอลต์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของแบตเตอรี่ NMC ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ LFP โดยรวมต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
  • ความปลอดภัยที่สูงกว่า: โครงสร้างทางเคมีของ LFP มีเสถียรภาพมากกว่า ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดความร้อนสูงเกิน (Thermal Runaway) และการลุกไหม้ต่ำกว่า
  • อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น: แบตเตอรี่ LFP มีความทนทานต่อการชาร์จและคายประจุซ้ำๆ ได้ดีกว่า ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
  • ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การหลีกเลี่ยงการใช้โคบอลต์ ซึ่งเป็นแร่ที่มักมีความกังวลเกี่ยวกับแหล่งที่มาและการทำเหมืองที่ไม่เป็นธรรม ทำให้แบตเตอรี่ LFP เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

การปรับปรุงโรงงานในเทนเนสซี: ก้าวสำคัญของ Ultium Cells

การตัดสินใจปรับปรุงโรงงานในเทนเนสซีเพื่อผลิตแบตเตอรี่ LFP ของ Ultium Cells ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการขยายขีดความสามารถและเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ให้กับ GM การลงทุนนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตแบตเตอรี่ LFP เท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ GM ในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดในวงกว้าง โดยเฉพาะรุ่นที่มีราคาเข้าถึงง่ายขึ้น ซึ่งแบตเตอรี่ LFP จะมีบทบาทสำคัญในการทำให้เป้าหมายนี้เป็นจริง

นัยยะต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

การขยายการผลิตแบตเตอรี่ LFP ของ Ultium Cells มีนัยยะสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในหลายมิติ:

  • การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น: การที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่ LFP จะกระตุ้นให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายอื่นๆ เร่งพัฒนาและเพิ่มกำลังการผลิตแบตเตอรี่ประเภทนี้มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในตลาด
  • ทางเลือกที่หลากหลายสำหรับผู้บริโภค: ผู้บริโภคจะมีทางเลือกของรถยนต์ EV ที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และมีแบตเตอรี่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
  • ลดการพึ่งพิงแร่ธาตุหายาก: การลดการพึ่งพิงแร่ธาตุอย่างนิกเกิลและโคบอลต์ จะช่วยลดความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทาน และส่งผลดีต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว
  • การสนับสนุนนโยบายพลังงานสะอาด: การผลิตรถยนต์ EV ที่มีต้นทุนต่ำลง จะช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาด และสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของหลายประเทศ

อนาคตของแบตเตอรี่ EV

การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของ Ultium Cells สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ EV ซึ่งกำลังแสวงหาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำ และยั่งยืนมากขึ้น การมุ่งเน้นไปที่แบตเตอรี่ LFP ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด และจะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้

การลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบตเตอรี่ LFP นี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ และช่วยให้เป้าหมายของการขนส่งที่ยั่งยืนเป็นจริงได้เร็วขึ้น


米アルティウムセルズ、テネシー州のEV用バッテリー製造施設を改修、LFPバッテリー生産拡大へ


AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-07-15 04:35 ‘米アルティウムセルズ、テネシー州のEV用バッテリー製造施設を改修、LFPバッテリー生産拡大へ’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย

Leave a Comment