
ตรรกะเบื้องหลัง “คำสุ่มสามคำ”: วิธีสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและจำง่าย จาก NCSC
บทความ “ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังคำสุ่มสามคำ” จาก UK National Cyber Security Centre (NCSC) หรือศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติของสหราชอาณาจักร ได้อธิบายถึงวิธีการสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและง่ายต่อการจดจำ โดยใช้ “คำสุ่มสามคำ” (Three Random Words) ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการแนะนำให้ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน
ทำไมต้องใช้ “คำสุ่มสามคำ”?
เหตุผลหลักที่อยู่เบื้องหลังการแนะนำวิธีนี้มีหลายประการ:
- ความแข็งแกร่ง: การใช้คำสุ่มสามคำ (หรือมากกว่า) สร้างรหัสผ่านที่มีความยาวและซับซ้อน ทำให้ยากต่อการถูกโจมตีด้วยวิธีการเดา (brute-force attack) หรือการใช้พจนานุกรม (dictionary attack)
- ความง่ายในการจดจำ: เมื่อเทียบกับรหัสผ่านที่ประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ที่สุ่มมา การใช้คำที่มีความหมาย ทำให้ผู้ใช้สามารถจดจำรหัสผ่านได้ง่ายกว่ามาก
- ความปลอดภัย: ถึงแม้รหัสผ่านจะประกอบด้วยคำที่มีความหมาย แต่เมื่อนำคำสุ่มมารวมกัน ความหมายรวมๆ จะไม่มีความเกี่ยวข้อง ทำให้แฮกเกอร์คาดเดาได้ยาก
- ลดความเสี่ยงจากการนำรหัสผ่านเดิมมาใช้ซ้ำ: การใช้คำสุ่มสามคำทำให้ง่ายต่อการสร้างรหัสผ่านที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละบัญชี ลดความเสี่ยงหากบัญชีหนึ่งถูกเจาะ รหัสผ่านอื่น ๆ ก็จะไม่ถูกเปิดเผยตามไปด้วย
หลักการสำคัญในการสร้างรหัสผ่านจาก “คำสุ่มสามคำ”:
- เลือกคำแบบสุ่ม:
- อย่า เลือกคำที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณ (เช่น ชื่อ, วันเกิด, ชื่อสัตว์เลี้ยง) เพราะเป็นสิ่งที่แฮกเกอร์สามารถเดาได้ง่าย
- อย่า เลือกคำที่อยู่ในพจนานุกรมยอดนิยม หรือคำที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
- ใช้ แหล่งข้อมูลที่สามารถสุ่มคำได้อย่างแท้จริง เช่น เครื่องมือสุ่มคำออนไลน์ หรือการเปิดพจนานุกรมแล้วจิ้มไปที่หน้าต่าง ๆ
- ใช้คำอย่างน้อยสามคำ: ยิ่งใช้คำมากเท่าไหร่ รหัสผ่านก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สามคำถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
- พิจารณาเพิ่มความซับซ้อนเล็กน้อย:
- ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กสลับกัน: เช่น
PurpleElephantRunning
หรือpUrPleElEPHanTRunnINg
- แทนที่ตัวอักษรบางตัวด้วยตัวเลขหรือสัญลักษณ์: เช่น
PurpleElephantRunn1ng
หรือPurpl3ElephantRunn!ng
(แต่ระวังอย่าใช้รูปแบบที่คาดเดาได้ง่าย เช่น การแทนที่ ‘e’ ด้วย ‘3’ ทุกครั้ง) - เพิ่มช่องว่างระหว่างคำ: เช่น
Purple Elephant Running
(แต่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบที่ใช้รองรับช่องว่างในรหัสผ่าน)
- ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กสลับกัน: เช่น
- ทดสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่าน: มีเว็บไซต์หลายแห่งที่ให้บริการตรวจสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่าน ซึ่งจะช่วยให้คุณประเมินได้ว่ารหัสผ่านที่สร้างขึ้นมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด (แต่ระวังอย่าป้อนรหัสผ่านจริงลงไปในเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ)
- อย่าลืมรหัสผ่าน!: นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก! หากคุณไม่สามารถจดจำรหัสผ่านได้ ให้ใช้ตัวจัดการรหัสผ่าน (Password Manager) ที่มีความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยเก็บรหัสผ่านทั้งหมดของคุณไว้ในที่เดียวและเข้ารหัสไว้
ตัวอย่างรหัสผ่านที่สร้างจาก “คำสุ่มสามคำ”:
BlueCactusJourney
SmilingTreeBicycle
SecretRainbowWhisper
ข้อดีและข้อเสียของ “คำสุ่มสามคำ”:
ข้อดี:
- แข็งแกร่งและปลอดภัย: ยากต่อการถูกแฮกด้วยวิธีการทั่วไป
- ง่ายต่อการจดจำ: โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรหัสผ่านที่สุ่มตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์
- ยืดหยุ่น: สามารถปรับเปลี่ยนให้ซับซ้อนขึ้นได้ตามความต้องการ
- เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป: ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคนิคในการสร้างรหัสผ่าน
ข้อเสีย:
- อาจยาวเกินไปสำหรับบางระบบ: บางระบบอาจมีข้อจำกัดด้านความยาวของรหัสผ่าน
- ยังคงต้องระมัดระวังเรื่องการเดา: หากเลือกคำที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณ หรือใช้รูปแบบที่คาดเดาได้ง่าย รหัสผ่านอาจไม่ปลอดภัย
- ต้องฝึกฝน: อาจต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับวิธีการสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง
สรุป:
วิธีการสร้างรหัสผ่านจาก “คำสุ่มสามคำ” เป็นวิธีที่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและจำง่าย อย่างไรก็ตาม ควรระลึกเสมอว่าไม่มีวิธีใดที่ปลอดภัย 100% การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องมีการปรับปรุงและเรียนรู้ตลอดเวลา
อ้างอิง:
- บทความต้นฉบับจาก NCSC: https://www.ncsc.gov.uk/blog-post/the-logic-behind-three-random-words
ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังคำสุ่มสามคำ
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-03-13 11:50 ‘ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังคำสุ่มสามคำ’ ได้รับการเผยแพร่ตาม UK National Cyber Security Centre กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
30