
ฉบับภาษาไทยของ “DOI Handbook” ฉบับปี 2023 เปิดตัวแล้ว: ก้าวสำคัญสู่วงการวิชาการและการวิจัยของไทย
ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 09:03 น. ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าว Current Awareness Portal ได้รายงานข่าวที่น่ายินดีสำหรับวงการวิชาการและนักวิจัยไทย นั่นคือการเปิดตัว “DOI Handbook” (ฉบับเดือนเมษายน 2566) ฉบับภาษาไทย โดย Japan Link Center (JaLC)
ข่าวนี้เป็นสัญญาณที่ดีที่ชี้ให้เห็นถึงความพยายามในการยกระดับการเข้าถึงข้อมูลและความร่วมมือระหว่างประเทศในแวดวงวิจัย การมีคู่มือการใช้งาน DOI (Digital Object Identifier) ที่เป็นภาษาไทย จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักวิจัย นักวิชาการ และสถาบันการศึกษาในประเทศไทยให้สามารถเข้าใจและนำระบบ DOI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
DOI คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ DOI กันก่อน
- DOI (Digital Object Identifier) คือ รหัสถาวรแบบดิจิทัล ที่ถูกกำหนดให้กับวัตถุดิจิทัลต่างๆ เช่น บทความวารสาร หนังสือ รายงานการประชุม หรือข้อมูลวิจัย เพื่อให้สามารถ ค้นหาและเข้าถึงได้อย่างถาวร แม้ว่าตำแหน่งที่ตั้ง (URL) ของไฟล์ต้นฉบับจะเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม
- เปรียบเสมือน “หมายเลขประจำตัวประชาชน” ของวัตถุดิจิทัล ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าจะสามารถอ้างอิงหรือค้นหาวัตถุนั้นๆ ได้ตลอดไป
- ความสำคัญของ DOI:
- ความน่าเชื่อถือและการอ้างอิง: ช่วยให้นักวิจัยสามารถอ้างอิงผลงานได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ลดปัญหาการเข้าถึงผลงานที่หายไป
- การสืบค้น: ทำให้การค้นหาข้อมูลวิจัยจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลกทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การวัดผลกระทบ: เป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามการใช้งานและการอ้างอิงผลงานวิจัย ซึ่งส่งผลต่อการประเมินผลงานทางวิชาการ
- การส่งเสริมการเข้าถึง: ช่วยให้นักวิจัยทั่วโลกสามารถเข้าถึงผลงานทางวิชาการได้อย่างไม่ติดขัด
“DOI Handbook” ฉบับปี 2023 (ภาษาไทย): สิ่งที่คุณควรรู้
คู่มือเล่มนี้จัดทำขึ้นโดย Japan Link Center (JaLC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่จัดการและให้การสนับสนุนระบบ DOI ในประเทศญี่ปุ่น การเปิดตัวฉบับภาษาไทยถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญในการส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับ DOI ในระดับสากล
-
เนื้อหาหลักของคู่มือ:
- การแนะนำระบบ DOI: อธิบายความเป็นมา วัตถุประสงค์ และหลักการทำงานของระบบ DOI
- ขั้นตอนการขอและใช้งาน DOI: ให้แนวทางที่ชัดเจนในการขอหมายเลข DOI สำหรับผลงานวิชาการประเภทต่างๆ
- ประโยชน์และการนำไปใช้: อธิบายว่าสถาบันการศึกษาและนักวิจัยจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากการใช้ระบบ DOI
- มาตรฐานและแนวปฏิบัติ: ครอบคลุมถึงมาตรฐานสากลและแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการ DOI
- กรณีศึกษา: อาจมีตัวอย่างการนำ DOI ไปใช้ในบริบทต่างๆ เพื่อเป็นแนวทาง
-
กลุ่มเป้าหมาย:
- นักวิจัยและนักวิชาการ: ผู้ที่ต้องการอ้างอิงและเผยแพร่ผลงานวิจัยของตนเอง
- บรรณารักษ์และผู้ดูแลห้องสมุด: ผู้มีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพยากรสารสนเทศ
- ผู้บริหารสถาบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัย: ผู้ที่ต้องการส่งเสริมคุณภาพและความสามารถในการแข่งขันของสถาบัน
- สำนักพิมพ์และผู้ให้บริการข้อมูล: ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานวิชาการ
ความสำคัญต่อประเทศไทย
การมี “DOI Handbook” ฉบับภาษาไทย จะส่งผลดีต่อวงการวิชาการและงานวิจัยของไทยในหลายมิติ:
- เพิ่มการเข้าถึงและการมองเห็นงานวิจัยไทย: เมื่อผลงานวิจัยไทยมีการกำหนด DOI อย่างถูกต้อง นักวิจัยทั่วโลกจะสามารถค้นหาและอ้างอิงงานของเราได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้งานวิจัยไทยเป็นที่รู้จักและถูกนำไปใช้ประโยชน์มากขึ้น
- ยกระดับคุณภาพการอ้างอิง: ช่วยให้นักวิจัยไทยสามารถอ้างอิงแหล่งข้อมูลได้อย่างแม่นยำและน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเขียนงานวิชาการที่มีคุณภาพ
- สนับสนุนการประเมินผลงาน: ระบบ DOI ช่วยให้การติดตามการอ้างอิงผลงานวิจัยทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการประเมินผลงานวิชาการของนักวิจัยและสถาบัน
- ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระดับนานาชาติ: การใช้ระบบ DOI ที่เป็นมาตรฐานสากล จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานวิจัยร่วมกับนักวิจัยจากทั่วโลก
- สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง: คู่มือภาษาไทยจะช่วยลดข้อจำกัดด้านภาษา ทำให้นักวิจัยไทยสามารถเข้าใจและนำระบบ DOI ไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก้าวต่อไป: การนำคู่มือไปปฏิบัติ
การมีคู่มือฉบับภาษาไทยเป็นเพียงจุดเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือการนำความรู้จากคู่มือเล่มนี้ไปปฏิบัติให้เกิดผลจริง
- สถาบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัย: ควรส่งเสริมให้นักวิจัยและบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้ศึกษาคู่มือเล่มนี้ และพิจารณาการกำหนด DOI ให้กับผลงานวิจัยของสถาบัน
- นักวิจัย: ควรมุ่งเน้นการกำหนด DOI ให้กับผลงานที่ตีพิมพ์ และใช้ DOI ในการอ้างอิงผลงานของผู้อื่น
- สำนักพิมพ์: ควรให้ความสำคัญกับการกำหนด DOI ให้กับบทความวารสารและหนังสือที่ตีพิมพ์
การเปิดตัว “DOI Handbook” ฉบับภาษาไทย โดย Japan Link Center (JaLC) ถือเป็นข่าวดีและก้าวสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการเข้าถึง ความน่าเชื่อถือ และการมองเห็นของผลงานวิชาการและงานวิจัยของประเทศไทยในเวทีโลก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์และนำไปสู่การพัฒนาวงการวิชาการไทยให้ก้าวหน้าต่อไป
ジャパンリンクセンター(JaLC)、“DOI Handbook”(2023年4月版)の日本語版を公開
AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:
เวลา 2025-07-17 09:03 ‘ジャパンリンクセンター(JaLC)、“DOI Handbook”(2023年4月版)の日本語版を公開’ ได้รับการเผยแพร่ตาม カレントアウェアネス・ポータル กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย