
วัตถุลื่นไหลมีความจำ! เก็บความทรงจำได้นานกว่าที่เคยคิด
ข่าวดีจาก MIT! ทีมนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า วัสดุที่ยืดหยุ่น นิ่มๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเจล โฟม หรือแม้กระทั่งยางที่เราใช้เล่นกัน สามารถ “จำ” เหตุการณ์ในอดีตของมันได้นานกว่าที่นักวิทยาศาสตร์เคยคิดไว้เสียอีก! ฟังดูเหมือนในหนังวิทยาศาสตร์ใช่ไหม? แต่นี่คือเรื่องจริงที่อาจจะทำให้เรามองสิ่งของรอบตัวเปลี่ยนไปเลยนะ!
ลองนึกภาพตามนะ… สมมติว่าเรามีก้อนเจลลี่ก้อนหนึ่ง เราบีบมันแรงๆ เจลลี่ก็จะเปลี่ยนรูปทรงไป พอเราปล่อยมือ มันก็จะค่อยๆ กลับมาเหมือนเดิมใช่มั้ย? ปกติเราจะคิดว่า พอปล่อยมือแล้ว มันก็กลับสู่สภาพเดิมทันที แต่จริงๆ แล้ว ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ MIT ค้นพบว่า เจลลี่ก้อนนั้น หรือวัสดุที่คล้ายกัน ยังคง “จำ” ได้ว่าเคยถูกบีบมาก่อน!
“ความจำ” ในที่นี้หมายถึงอะไร?
ไม่ใช่ว่าวัสดุเหล่านี้จะมีสมองเหมือนคนเรานะจ๊ะ! แต่หมายถึงว่า โครงสร้างเล็กๆ ภายในวัสดุเหล่านั้น ได้รับ “ผลกระทบ” จากการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง หรือการถูกกระทำต่างๆ และผลกระทบนั้นยังคงอยู่ ทำให้เมื่อเราลองบีบ หรือดัดมันอีกครั้ง มันจะตอบสนองไม่เหมือนเดิมเสียทีเดียว
นักวิทยาศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Memory effect” หรือ “ผลจากความจำ” พวกเขาพบว่า “ความจำ” นี้สามารถอยู่ได้นานมากๆ บางทีอาจจะเป็นวัน สัปดาห์ หรือเป็นเดือนเลยทีเดียว! ซึ่งมันนานกว่าที่เคยเชื่อกันมาก่อน
นักวิทยาศาสตร์ทำได้อย่างไร?
ทีมนักวิจัยได้ทดลองกับวัสดุที่เรียกว่า “Soft materials” หรือวัสดุที่อ่อนนุ่ม พวกเขาสังเกตการณ์โครงสร้างระดับโมเลกุลภายในวัสดุเหล่านี้อย่างละเอียด ผ่านเทคนิคพิเศษต่างๆ
ลองนึกภาพว่า วัสดุเหล่านี้เหมือนกับบ้านหลังเล็กๆ ที่ประกอบด้วยอิฐก้อนเล็กๆ จำนวนมาก เมื่อเราไปดันบ้านหลังนั้น อิฐก็จะขยับ แต่เมื่อเราปล่อย อิฐบางก้อนก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งใหม่ที่เคยถูกดันไป ทำให้บ้านหลังนั้นมีรูปร่างที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย และ “จำ” ได้ว่าเคยถูกดัน
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า “ความจำ” นี้ เกิดจากการที่โครงสร้างภายในของวัสดุมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่คงทน เมื่อวัสดุถูกยืด บิด หรือถูกแรงกระทำต่างๆ โครงสร้างเล็กๆ ภายในก็จะจัดเรียงตัวใหม่ และ “ล็อค” ตัวอยู่ในตำแหน่งนั้น ทำให้มันมีความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับมัน
ทำไมเรื่องนี้ถึงน่าตื่นเต้น?
การค้นพบครั้งนี้เหมือนการเปิดประตูบานใหม่เลยนะ! มันมีความเป็นไปได้ที่จะนำความรู้เรื่อง “ความจำ” ของวัสดุเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ได้มากมายเลยล่ะ!
- หุ่นยนต์ที่นุ่มนวล: ลองคิดถึงหุ่นยนต์ที่สามารถปรับรูปร่างได้เองอัตโนมัติ เพื่อทำงานในพื้นที่แคบๆ หรือช่วยในการผ่าตัด! หรือหุ่นยนต์ที่สามารถ “จำ” เส้นทางที่เคยไปมาแล้วได้
- อุปกรณ์ทางการแพทย์อัจฉริยะ: อาจจะมีการสร้างอุปกรณ์ที่สามารถปรับรูปร่างตามร่างกายของผู้ป่วย หรือช่วยในการส่งยาได้อย่างแม่นยำ
- วัสดุที่ซ่อมแซมตัวเองได้: วัสดุบางชนิดอาจจะสามารถ “จำ” รูปร่างเดิมของตัวเองได้ และพยายามกลับไปสู่สภาพนั้นเมื่อเกิดความเสียหาย
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่: อาจจะมีการสร้างเซ็นเซอร์ หรืออุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของวัสดุก็เก็บข้อมูลได้แล้ว!
ชวนน้องๆ มาเป็นนักวิทยาศาสตร์น้อย!
เรื่องราวของ “วัสดุที่มีความจำ” นี้ เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของโลกวิทยาศาสตร์อันกว้างใหญ่! มีเรื่องน่าทึ่งอีกมากมายรอให้เราไปค้นพบ
- ลองสังเกตสิ่งของรอบตัว: วัสดุยางรัดของ ลูกโป่ง หรือแม้กระทั่งโดนัทนิ่มๆ ที่เรากินกัน มันมี “ความจำ” ในแบบของมันหรือเปล่านะ?
- ตั้งคำถาม: ทำไมสิ่งนี้ถึงเป็นแบบนี้? มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทำแบบนี้? การตั้งคำถามเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของนักวิทยาศาสตร์เลยนะ!
- ทดลองง่ายๆ: ลองยืดลูกโป่งแล้วปล่อยดู มันกลับมาขนาดเท่าเดิมเป๊ะๆ ไหม? หรือลองบีบดินน้ำมันแล้วดูว่ามันเปลี่ยนรูปไปอย่างไรบ้าง?
การค้นพบจาก MIT นี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า โลกของเรายังเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ที่รอให้เราไปค้นหา และวิทยาศาสตร์คือเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจสิ่งเหล่านั้น
เด็กๆ ทุกคนสามารถเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้! แค่มีความสงสัย กล้าที่จะทดลอง และไม่กลัวที่จะตั้งคำถาม มาร่วมกันสำรวจโลกอันน่าทึ่งใบนี้ไปด้วยกันนะ!
Soft materials hold onto “memories” of their past, for longer than previously thought
ปัญญาประดิษฐ์ได้ส่งข่าวสารแล้ว
คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อรับคำตอบจาก Google Gemini:
เมื่อเวลา 2025-09-03 04:00 Massachusetts Institute of Technology ได้เผยแพร่ ‘Soft materials hold onto “memories” of their past, for longer than previously thought’ กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายสำหรับเด็กและนักเรียน เพื่อส่งเสริมให้เด็กจำนวนมากขึ้นสนใจในวิทยาศาสตร์ กรุณาให้เฉพาะบทความเป็นภาษาไทยเท่านั้น