ทรัมป์เล็งสอบภาษีนำเข้าเครื่องบินและชิ้นส่วน: ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินโลก,日本貿易振興機構


ทรัมป์เล็งสอบภาษีนำเข้าเครื่องบินและชิ้นส่วน: ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินโลก

ข่าวสำคัญจาก JETRO (องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น) ระบุว่า ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2025 เวลา 07:15 น. ตามเวลาญี่ปุ่น ได้มีการเผยแพร่ข่าวเรื่อง “รัฐบาลทรัมป์เริ่มการสอบสวนมาตรา 232 เกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องบินพาณิชย์และชิ้นส่วน” ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลก

มาตรา 232 คืออะไร?

มาตรา 232 ของกฎหมายการค้าของสหรัฐฯ ให้อำนาจประธานาธิบดีในการสอบสวนว่าการนำเข้าสินค้าบางประเภทส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่ หากพบว่าส่งผลกระทบจริง ประธานาธิบดีสามารถใช้มาตรการต่างๆ เช่น การเรียกเก็บภาษีนำเข้า การกำหนดโควตานำเข้า หรือการจำกัดการนำเข้าได้

ทำไมทรัมป์ถึงสนใจเรื่องเครื่องบินและชิ้นส่วน?

เหตุผลที่รัฐบาลทรัมป์สนใจเรื่องนี้อาจมาจากหลายปัจจัย:

  • ปกป้องอุตสาหกรรมการบินในประเทศ: รัฐบาลอาจมองว่าการนำเข้าเครื่องบินและชิ้นส่วนราคาถูกจากต่างประเทศกำลังคุกคามผู้ผลิตในประเทศอย่าง Boeing และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • ความมั่นคงแห่งชาติ: อาจมีการอ้างถึงประเด็นความมั่นคงแห่งชาติ โดยอ้างว่าการพึ่งพาการนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศอาจเป็นอันตรายต่อความสามารถในการผลิตเครื่องบินทางทหารในยามจำเป็น
  • การต่อรองทางการค้า: การสอบสวนมาตรา 232 อาจเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการค้ากับประเทศอื่นๆ เพื่อให้สหรัฐฯ ได้เปรียบมากขึ้น

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:

  • ราคาสูงขึ้น: หากมีการเก็บภาษีนำเข้าเครื่องบินและชิ้นส่วน ราคาก็จะสูงขึ้น ทำให้สายการบินต่างๆ ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อราคาตั๋วโดยสาร
  • ห่วงโซ่อุปทานปั่นป่วน: อุตสาหกรรมการบินมีห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนและสายการบินต่างๆ ในหลายประเทศ
  • การตอบโต้ทางการค้า: หากสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้า ประเทศอื่นๆ อาจตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน ซึ่งจะนำไปสู่สงครามการค้า
  • ผลกระทบต่อ Boeing: แม้ว่าอาจมีเป้าหมายเพื่อปกป้อง Boeing แต่การเก็บภาษีนำเข้าอาจส่งผลเสียต่อบริษัทได้เช่นกัน เนื่องจาก Boeing เองก็พึ่งพาการนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศเพื่อประกอบเครื่องบิน

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ควรทราบ:

  • ประเทศที่ได้รับผลกระทบ: ประเทศที่ส่งออกเครื่องบินและชิ้นส่วนไปยังสหรัฐฯ มากที่สุด เช่น แคนาดา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
  • ระยะเวลาการสอบสวน: การสอบสวนมาตรา 232 มักใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี และผลลัพธ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
  • ปฏิกิริยาจากอุตสาหกรรม: สายการบิน ผู้ผลิตเครื่องบิน และองค์กรที่เกี่ยวข้องกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะมีการล็อบบี้เพื่อคัดค้านการเก็บภาษีนำเข้า

โดยสรุป:

การสอบสวนมาตรา 232 เกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องบินและชิ้นส่วนของสหรัฐฯ เป็นสถานการณ์ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลก การเก็บภาษีนำเข้าอาจนำไปสู่ราคาสูงขึ้น ห่วงโซ่อุปทานปั่นป่วน และการตอบโต้ทางการค้า ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจโดยรวม


トランプ米政権、民間航空機・部品の輸入に対する232条調査を開始


AI ได้ให้ข่าวสารแล้ว

คำถามต่อไปนี้ถูกใช้เพื่อสร้างคำตอบจาก Google Gemini:

เวลา 2025-05-12 07:15 ‘トランプ米政権、民間航空機・部品の輸入に対する232条調査を開始’ ได้รับการเผยแพร่ตาม 日本貿易振興機構 กรุณาเขียนบทความโดยละเอียดพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กรุณาตอบเป็นภาษาไทย


27

Leave a Comment